อุบลราชธานี ภูธรภาค 3 แถลงข่าวผลการจับกุมโกงเงินเทศบาล

ภูธรภาค 3 แถลงข่าวผลการจับกุมโกงเงินเทศบาล สืบภาค3ตามรวบถึงภูเก็ตการเงินเทศบาลบุญฑริก อุบลราชธานีโกงเงินหลวง 31.7 ล้าน ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 พล.ต.ท.ภาณุ บุรณศิริ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3 พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง ผบก.สส.ภ.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สิทธิชัย ธัญญาบาล ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.3 พ.ต.ท.ไทรัฐ สมฤทธิ์ พ.ต.ท.แผน สวาสดิ์นา พ.ต.ท.อภิศาล แก้วดู รอง ผกก.สืบสวน 2 และ พ.ต.ท.ทวินันท์ นามวิเศษ สว. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.3 ทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาในคดีโกงเงินเทศบาลตำบลบุณฑริก อ.บุณฑริก จว.อุบลราชธานี คือ นางสาวมยุรา  อายุ 36 ปี  ต.บัวงาม อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเดชอุดมที่ จ.55/2565 ลงวันที่ 24 มิ.ย.2565 ความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำหรือจัดการทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

พฤติการณ์ในการจับกุม ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าว สาวใหญ่โกงเงินเทศบาล 31ล้านแล้วหลบหนีไป เหตุเกิดที่ เทศบาลตำบลบุณฑริก อ.บุณฑริก จว.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2565 ถึงวันที่ 10 มิ.ย.2565 ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบุณฑริกได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ และศาลจังหวัดเดชอุดมออกหายจับผู้ต้องหาตามหมายจับศาล ที่ จ.55/2565 ลง 24 มิ.ย.2565 ไว้แล้ว นั้น พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 ได้ทราบและสั่งการให้ บก.สส.ภ.3 เร่งทำการสืบสวนจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้จงได้ ผบก.สส.ภ.3 จึงสั่งการให้ ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.3 นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ จว.ภูเก็ต จึงได้จัดชุดสืบสวนลงไปทำการสืบสวนจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ จว.ภูเก็ต นำตัวส่ง สภ.บุณฑริก จว.อุบลราชธานี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป                                     สอบถาม น.ส.มุยุรา  ให้การรับว่า ตนเองเป็นเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี เทศบาลตำบลบุณฑริก ได้อาศัยเหตุที่มีตำแหน่งหน้าที่สามารถเข้าถึงระบบการเบิกจ่ายเงินของเทศบาลจึงได้ทำการโอนเงินจากบัญชีธนาคารของเทศบาลไปยังบัญชีธนาคารของตนเอง จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 31.7 ล้านบาท แล้วหลบหนีไป ซึ่งในขณะหลบหนีไปเจ้าหน้าที่เทศบาลยังไม่ทราบว่าเงินในบัญชีเทศบาลหายไป จนกระทั่งต่อมามีการตรวจสอบจึงทราบเหตุและได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน โดยขณะหลบหนี ผู้ต้องหาได้ไปสมัครทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในตัวเมืองภูเก็ต

เอกชัย โปธา รายงาน