นายกฯชื่นชมนิทรรศการกรมการพัฒนาชุมชน น้อมนำแนวทางพระราชดำริ “ปลูกพืชผักสวนครัว”

นายกฯชื่นชมนิทรรศการกรมการพัฒนาชุมชน น้อมนำแนวทางพระราชดำริ “ปลูกพืชผักสวนครัว” และ “โคก หนอง นา” เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากมั่นคงและช่วยชุมชนพึ่งตนเองได้ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมหนุนสืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทยดำรงไว้ในแผ่นดินของสภาสตรีแห่งชาติฯ

เมื่อ 28 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมชมบูธนิทรรศการกิจกรรมจิตอาสา ของกรมการพัฒนาชุมชน ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ใต้ร่มพระบารมี เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนพึ่งตนเองได้” โดยมี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ที่ปรึกษาอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกรมการพัฒนาชุมชน ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชม ณ บริเวณท้องสนามหลวง

โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมการจัดนิทรรศการดังกล่าวของกรมการพัฒนาชุมชนทั้งในส่วนของแผนปฏิบัติการ และการสร้างความมั่นคงด้านอาหารถือว่าเป็นสิ่งที่ดี นอกจากการสร้างวัฒนธรรมการปลูกผักสวนครัวแล้วยังช่วยประหยัดรายจ่ายครัวเรือน และได้พืชผักปลอดภัยใช้ในการบริโภค นอกจากนี้ยังทำให้บ้านเรือนสวยงาม มีสิ่งแวดล้อมที่ดีด้วยการปลูกผักสวนครัว ทั้งหน้าบ้านหลังบ้านควบคู่กับไม้ดอกไม้ประดับ พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ร่วมกับประชาชนจิตอาสาจากจังหวัดสมุทรสงครามเพาะเมล็ดทานตะวันต้นอ่อนทานตะวัน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้เยี่ยมชมการแสดงนิทรรศการการนำเอาหลักทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โดยได้พูดคุยกับจิตอาสาที่ได้มาร่วมทำความดีด้วยหัวใจด้วยการเอามื้อสามัคคีที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนจังหวัดลำปาง อุบลราชธานี นครนายก และนครศรีธรรมราช ผ่านระบบ Microsoft zoom ให้สามารถปรับปรุงพื้นที่ทำกินของประชาชนให้สามารถ จากเก็บน้ำไว้ใช้ในพื้นที่ของตนเองได้ พร้อมเยี่ยมชมการจัดทำฝาย คลองใส้ไก่ ทำหลุมขนมครก ทำหนอง เพื่อจัดเก็บน้ำไว้ใช้ในการเพาะปลูก ซึ่งประชาชนต้องเสียสละที่ดิน สำหรับทำแรงน้ำในพื้นที่ พร้อมขอบคุณจิตอาสาทั้ง 4 ภาค กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ที่ดำเนินงานการขับเคลื่อนในเรื่องนี้ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังให้ความมั่นใจว่าการนำผักตบชวามาทำใยเพื่อทอผ้า ทำจาน และสลับกับการทำกันกระแทก ขอให้ทุกบ้านช่วยกันกำจัดผักตบชวาที่อยู่ในพื้นที่จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เข้าเยี่ยมชมซุ้มของสภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำเสนอโดยดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายกรมการพัฒนาชุนจัดทำโครงการ “ สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” โดยประธานสภาสตรีฯได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีแทนสตรีไทยที่รัฐบาลได้มีมติ ครม.เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 เชิญชวนให้คนไทยสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมาถึงปัจจุบันสามารถสร้างรายได้กลับสู่ครอบครัวในชุมชนได้มากกว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ใช้เวลาอยู่ที่บูธนิทรรศการของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยด้วยความสนใจ และได้ร่วมถ่ายรูปหมู่กับผู้มาให้การต้อนรับ โดยกรมการพัฒนาชุมชนได้มอบเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวให้แก่นายกรัฐมนตรีพร้อมฝากให้ภริยาท่านนายกรัฐมนตรีด้วย

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวฝากถึงทุกจังหวัดให้จัดหาพื้นที่ซึ่งจะต้องขุดน้ำ พื้นที่ส่วนไหนมีน้ำ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ต้องพยายามหาวิธีบริหารจัดการพื้นที่โอบอุ้มน้ำ ให้มีการเก็บสะสมระหว่างทางให้ได้มากที่สุด ทั้งแก้มลิง การตุนน้ำ หรือหลุมขนมครก ให้อุ่นใจว่าจะมีน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค มากพอใช้ทำการเกษตร และไปดันน้ำเค็มด้านล่างลงสู่ทะเล ถ้ามีน้ำมากก็ระบายออก ถ้าน้ำน้อยก็ต้องกักเอาไว้ บริหารจัดการแหล่งน้ำธรรมชาติให้ได้มากที่สุด ช่วยกันคนละไม้คนละมือ วันนี้เราก็มีจิตอาสาจำนวนมากพร้อมช่วยกันออกแรง ทำแหล่งเก็บน้ำในพื้นที่ ถ้ารอรัฐบาลก็อาจจะช้าเกินไป ถ้าทุกคนช่วยกันต่อเนื่องก็จะมีน้ำกินน้ำใช้ รวมทั้งพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ที่ขณะนี้มีทุกจังหวัด ขอขอบคุณกระทรวงมหาดไทยและทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจกันครั้งนี้

ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว กระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการร่วมจัดกิจกรรมจิตอาสา “ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี…เราสร้างไปด้วยกัน” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2563 โดยได้จัดนิทรรศการภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี…เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนพึ่งตนเองได้”

ทั้งนี้ มีกิจกรรมสาธิต กิจกรรมส่งเสริมความรู้ การส่งเสริมทักษะอาชีพตามภารกิจที่เกี่ยวข้องในประเด็น “การบริหารจัดการชุมชน” ซึ่งน้อมนำแนวพระราชดำริมาประยุกต์ใช้และการเสริมสร้างความเข้มแข็ง สร้างภูมิคุ้มกันระดับครัวเรือน ชุมชนในสถานการณ์วิกฤต ส่งเสริมและสนับสนุนให้คนในชุมชนใช้วิถีชีวิตในการสืบสาน รักษา ต่อยอด หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันจะส่งผลให้คนในสังคมมีความสุขและเข้มแข็ง ถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้สังคมไทยมีเสถียรภาพ สามารถพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้มีความเจริญก้าวหน้าได้อย่างมั่นคง ยั่งยืนต่อไป

ขณะที่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กล่าวว่า นิทรรศการที่ได้จัดแสดงครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 การสร้างความมั่นคงทางอาหาร เป็นการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำรงชีวิต กิจกรรมสาธิตการปลูกผักสวนครัว ส่วนที่ 2 การสร้างความมั่นคงด้านอาชีพ และรายได้ จัดฉายวีดิทัศน์และนิทรรศการการน้อมนำแนวทางโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมาสู่การปฏิบัติ การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” และส่วนที่ 3 การเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่ตลาด ตามวิถีแบบใหม่ (New Normal) จัดแสดงภูมิปัญญามาผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ การแปรรูป พัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาดตามวิถีใหม่ New Normal

สำหรับ กิจกรรมดังกล่าว นายกรัฐมนตรี ได้ทำการสื่อสารผ่านระบบ Zoom กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาเอามื้อสามัคคี เฉลิมพระเกียรติ บริเวณ โคก หนอง นา โมเดล ภาคละ 1 จุด เพื่อได้เห็นภาพบรรยากาศกิจกรรมเอามื้อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และบรรยากาศการเรียนรู้กิจกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่โคกหนองนาโมเดล จากพื้นที่ต้นแบบในสถานจริงทุกภูมิภาค

อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ภาคเหนือ ดำเนินการที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลำปาง ปลูกข้าวพันธุ์ล้านนา โดยการหยอดหลุม ปลูกต้นไม้ ปลูกหญ้าแฝก ซ่อมหนองน้ำ ปล่อยปลา ภาคใต้ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครศรีธรรมราช ปลูกต้นไม้ ปลูกหญ้าแฝก ห่มดิน ปรับปรุงภูมิทัศน์ ปล่อยปลา ภาคกลาง ดำเนินการที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก ขุดคลองไส้ไก่ ปลูกพืชบนคันนาทองคำ ปลูกต้นไม้ ห่มดิน และภาคอีสาน ดำเนินการที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี “ทีมครูพาทำ” ทำกำแพงแฝกเสริมไผ่ ปลูกหญ้าแฝก 3 ชั้น ขุดคลองไส้ไก่ ปลูกป่า 5 ระดับ ห่มดิน ทำแปลงผักปรับปรุงดินด้วยถ่านไบโอซาร์

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ประชาชนได้ร่วมสัมผัสชีวิตวิถีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 – 31 กรกฎาคม กับกิจกรรมสาธิต ให้ความรู้การปลูกผักสวนครัว, โคก หนอง นา โมเดล การแปรรูปผลิตภัณฑ์ ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) 3 รอบเวลา ดังนี้ รอบเช้า ตั้งแต่เวลา 10.00 – 13.00 น. รอบบ่าย ตั้งแต่เวลา 13.00 – 14.00 น. และรอบเย็น ตั้งแต่เวลา 16.00 – 18.00 น. และร่วมเติมความสุขไปกับกิจกรรม “ปันสุข” ทุกคนที่เข้าชมนิทรรศการ เรียนรู้ ฝึกปฏิบัติ จะได้รับสิ่งของแจกฟรี เช่น เมล็ดพันธุ์ผักสวนครัว อาหารแปรรูป หน้ากากอนามัยผ้า เพียง Scan QR Code Page ปลูกพืช ปลูกผัก ปลูกรัก กับ พช. ประเมินความพึงพอใจ Check Out ไทยชนะ เสร็จแล้วรับของได้ทันที