ผู้ช่วยพยาบาลสาว ถูก 18 มงกุฎ นำรูปไปใช้เป็นโปรไฟล์หลอกขายสินค้า มีผู้เสียหายกว่า 30 ราย โอนเงินแล้วถูกบล๊อคเฟสติดต่อไม่ได้
เมื่อเวลา 15.00น. ของวันที่ 09 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากนางสาวเบญจมาศ บัวศรี อายุ 37 ปี ตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย จังหวัดสมุทรสาคร ว่ารูปของตนเองที่ใช้เป็นภาพโปรไฟล์ในเฟสบุ๊คส่วนตัวนั้น ถูกมิจฉาชีพนำไปใช้เป็นภาพโปรไฟล์เพื่อโพสต์ขายสินค้า ประเภทเสื้อผ้าราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยหลอกให้ผู้เสียหายกว่า 30 รายหลงเชื่อ เมื่อสั่งสินค้าพร้อมโอนเงินมายังบัญชีของ 18 มงกุฎแล้ว ถ้าไม่ปิดเฟสหนี ก็บล็อกเฟสลูกค้า ไม่สามารถติดต่อกันได้อีกเลย
นางสาวเบญจมาศฯ ผู้เสียหายที่ถูกนำภาพไปใช้นั้น ได้นำหลักฐานการลงบันทึกประจำวันที่ สภ.กระทุ่มแบน เมื่อวันที่ 05 กรกฎาคม 2563 พร้อมเอกสารแสดงภาพโปรไฟล์(ปลอม) บนหน้าเฟสบุ๊คของมิจฉาชีพที่ใช้ชื่อว่า Supaporn Patporn แม่ค้าออนไลน์ขายเสื้อผ้ามือ 1 มือ 2 กับ Supat Chakorn ขายเสื้อผ้าราคาปลีก ราคาส่ง โดยทั้งสองเฟสได้นำรูปของผู้เสียหายที่สวมใส่ชุดผู้ช่วยพยาบาลไปตั้งเป็นภาพโปรไฟล์ แล้วทำการโพสต์ภาพสินค้าที่เป็นเสื้อผ้าแบบต่างๆ จนเหยื่อหลายรายหลงเชื่อเข้าไปสั่งสินค้า(เสื้อผ้า) พร้อมกับมีการโอนเงินไปตามเลขที่บัญชีที่เฟซดังกล่าวระบุไว้ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับสินค้า เสียเงินฟรี โดยมีผู้ที่โอนเงินเข้าไปตั้งแต่หลักร้อยบาท จนถึงเกือบหลักหมื่นบาท
นางสาวเบญจมาศฯ บอกว่า ปกติตนเองจะใช้เฟสบุ๊คในการแสดงกิจกรรมส่วนตัวมากกว่า ไม่ค่อยมีการโพสต์ขายของเท่าไหร่ นอกจากไปในแหล่งที่มีสิ่งของน่าสนใจจึงจะโพสต์ภาพ เพื่อถามเพื่อนๆ และคนรู้จักว่าต้องการหรือไม่ ส่วนในอนาคตก็เตรียมตัวที่จะเป็นแม่ค้าออนไลน์เหมือนกัน แต่ก็มาถูก 18 มงกุฎเอารูปของตนไปใช้หลอกคนอื่นจนมีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ราย ทำให้ตนเสียชื่อเสียงและถูกด่าว่า ด่าประจานในโลกออนไลน์ไปด้วย ซึ่งตนมารู้ตัวก็ตอนที่เพื่อนรุ่นน้องมาบอกว่า “มีคนเอารูปของตนไปตั้งเฟสขายเสื้อผ้าแล้วมีคนแชร์ด่ากันเยอะว่าหลอกลวงไม่ส่งของ” พอหลังจากที่ทราบเรื่องตนเองก็ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.กระทุ่มแบน และเข้าไปชี้แจงให้ผู้ที่หลงเชื่อ 18 มงกุฎได้ทราบว่า คนๆนั้นไม่ใช่ตน ซึ่งก็มีหลายคนเข้าใจ แต่เหตุการณ์นี้ก็ สร้างความเสียหายให้แก่ตนเองเป็นอย่างมาก อีกทั้งรู้สึกไม่ปลอดภัยไม่สบายใจเวลาออกไปไหน คนจะมองว่าเป็นคนขี้โกง และทำให้ตนขาดความน่าเชื่อถือ ยิ่งในอนาคตที่ตนคิดจะทำอาชีพแม่ค้าออนไลน์ก็คงจะกลายเป็นปัญหาอุปสรรคอีกอย่างหนึ่งแน่นอน ดังนั้นตนจะเดินหน้าเรียก ร้องความเป็นธรรม หาตัวผู้กระทำผิดมารับผิดชอบ คือ มิจฉาชีพหรือ 18 มงกุฎรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้
นางสาวเบญจมาศฯ บอกอีกว่า ทั้งนี้ตนเองและผู้เสียหายรายอื่นๆ ได้ตั้งไลน์กลุ่ม เพื่อช่วยกันพยายามเจาะโลกโซเชี่ยลตามหามิจฉาชีพรายนี้ จนเบื้องต้นพอจะทราบแล้วว่าเป็นใคร มีบ้านเกิดอยู่ที่ไหน แต่ยังหาที่ๆเขาอยู่จริงในปัจจุบันไม่พบ ส่วนทางบ้านเกิดของมิจฉาชีพรายนี้ที่อยู่ในจังหวัดตรังมีคนติดต่อครอบครัวเขาได้ แต่ทางโน้นก็บอกว่าไม่รับผิดชอบแต่อย่างใดเพราะช่วยตามใช้หนี้ใช้สินแทนมามากแล้ว ทั้งนี้จึงขอเตือนผู้ที่ชอบซื้อสินค้าออนไลน์ว่า อย่าลงเชื่อมิจฉาชีพเพียงเพราะแค่สินค้าถูกกว่าท้องตลาด หรือโปรไฟล์น่าเชื่อถือเท่านั้น เพราะอาจจะไม่ใช่ภาพโปรไฟล์จริงๆ ของเขาก็ได้ ดังนั้นก่อนสั่งซื้อหรือก่อนโอนเงิน ขอให้ตรวจดูรายละเอียดต่างๆ ที่ปรากฎบนหน้าจอเฟสบุ๊คก่อน เช่น มียอดถูกใจมากเพียงพอหรือไม่ สอบถามราคากับคุณสมบัติของเสื้อผ้าแล้วเป็นไปได้หรือไม่ และรูปโปรไฟล์ดังกล่าวน่าจะใช่เจ้าของเฟสจริงหรือไม่ เป็นต้น
ชูชาต แดพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร
