สุพรรณบุรี หนุ่มอ่างทองไม่สนเคอร์ฟิวขับเก๋งข้ามจังหวัดถูกจับพร้อมยาเสพติด

สุพรรณบุรี หนุ่มอ่างทองไม่สนเคอร์ฟิวขับเก๋งข้ามจังหวัดถูกจับพร้อมยาเสพติด
ที่ จ.สุพรรณบุรี หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ไปทั่วประเทศทำให้รัฐบาลตัดสินใจใช้ พรก.ฉุกเฉิน ประกาศเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น.นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อป.พร.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งด่านตรวจคัดกรองจำนวน 4 จุดประกอบด้วยบนถนนสาย 340 จำนวน 2 จุดจุดที่ 1หน้าหมวดการทางบางปลาม้าขาเข้ากรุงเทพ จุดที่ 2 อ.เดิมบางนางบวช รอยต่อ จ.ชัยนาท จุดที่ 3 บ้านดอนมะสังข์ เขตรอยต่อ จ.อ่างทอง จุดที่ 4 บ้านหนองวัลย์เปรียง ขาเข้า จ.นครปฐม ทั้ง 4 จุดนี้นอกจากเป็นด่านคัดกรองตรวจสอบประชาชนที่เดินทางเข้าออกระหว่างจังหวัดสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 แล้วช่วงกลางคืนก็ยังเป็นด่านตรวจจับผู้ที่ฝ่าฝืนกระทำความผิด พรก.ฉุกเฉิน ที่ห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น.อีกด้วย

นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เปิดเผยความคืบหน้าการเฝ้าระวังการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ว่าในส่วนของจังหวัดสุพรรณบุรี เรายังคงเหลือผู้ป่วย 4 คน คนที่ 2 ออกจาก รพ.แล้ว(แต่ต้องมากักกันตัวที่จังหวัด อีก 14 วัน) ที่เหลือคนที่ 3, 4, 5 ทุกคนอาการล่าสุด ปลอดภัย ผู้สัมผัสใกล้ชิดกรณีผู้สูงอายุและญาติที่ตำบลบ่อสุพรรณตรวจไม่พบเชื้อและกักกันตัวครบแล้วปกติดีทุกคน ส่วนที่ตำบลบางพลับ อ.สองพี่น้อง กักตัวครบ 14 วัน แล้วปกติดีสำหรับที่ตำบลมะขามล้มพ่อแม่ปกติดี ยังเหลือ เฝ้าระวังที่สถานกักกันของจังหวัด อีกประมาณ11 คนซึ่งมีประมาณ 8 คน จะครบกำหนดในวันที่ 17 เมษายน และอีก 3 คนจะครบกำหนดครบ 19 เมษายน นอกจากนี้ยังมีที่กลับจากต่างประเทศและมาจากจังหวัดเสี่ยงอีก 4 คน ขณะนี้ทุกคน สบายดีไม่มีอาการป่วย
ทีมงานของสาธารณสุข อำเภอ เทศบาล อบต. ผู้ใหญ่บ้าน อสม.ได้ออกปฏิบัติการตรวจค้นทุกหลังคาเรือน เพื่อสืบหาทำทะเบียนประวัติบุคคลที่กลับมาจากต่างประเทศ จากต่างจังหวัด และออกคำสั่งเจ้าพนักงานฯให้กักกันตัวเอง วัดไข้เมื่อวันที่ 9 -11 เมษายน ซึ่งข้อมูลทุกหมู่บ้านที่ได้มาตนและคณะจะทำการประเมินสถานการณ์วิเคราะห์เพื่อจัดการกับผู้ที่เราไปสืบค้นมาและถ้าอยู่ในข่ายสงสัยก็จะเอามากักกันตัวที่จังหวัดต่อไปต้องขอขอบคุณคณะทำงานทุกๆท่าน ที่เสียสละ อดทน ทั้งอากาศร้อนความเสี่ยงต่อโรค และอารมณ์ฉุนเฉียวของชาวบ้านบางคน การกระทบกระทั่งกับคนที่ไม่ยอมทำตามกติกาแต่ทีมงานทุกๆคนก็อดทน ทำเพื่อความปลอดภัยของชาวสุพรรณ และครอบครัวทุกๆคน ผมขอกราบแทบเท้าในสิ่งที่ทุกท่านได้เสียสละในครั้งนี้ “นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ชาวสุพรรณ ร่วมมือร่วมใจ – ห่างไกล เชื้อไวรัสโควิด 19


ทางด้าน พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ว่าเมื่อเวลาประมาณ 23.45 น.วันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมาขณะที่ตนได้นำกำลังออกตรวจความเรียบร้อยด่านตรวจตามนโยบายของ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้รับรายงานว่าที่ด่านตรวจเส้นทางโพธิ์พระยา-ท่าเรือ ต.ดอนมะสังข์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหารตำรวจ กำนันผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อยู่พบรถยนต์เก๋งตองสงสัยยี่ห้อฮอนด้าสีน้ำเงินขับมา จอดดับไฟหน้าห่างด่านตรวจประมาณ 200 เมตร จึงเข้าร่วมตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่กำลังสอบถามคนขับซึ่งเป็นชายทราบชื่อต่อมาคือนายชลวิทย์ คงอ่อน อายุ 30 ปีบ้านอยู่ ต.ยี่ล้น อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่คนขับได้แสดงอาอาการมีพิรุธเจ้าหน้าที่จึงให้ขับรถเข้ามาที่ด่านตรวจเพื่อทำการตรวจค้น
จากการตรวจค้นอย่างละเอียดพบยาบ้า 2 เม็ดและไอซ์ 1 กรัมห่อถุงพลาสติกซ่อนอยู่ในขอบพับขากางเกงจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนนายชลวิทย์ ให้การอ้างว่าไปกินเหล้าสังสรรค์ที่บ้านเพื่อนในเขต ต.ดอนมะสังข์ จนดึกเนื่องจากติดลมเพลินไปหน่อยและกำลังจะกลับบ้าน ที่ ต.ยี่ล้น แต่มาเจอด่านตรวจคิดว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจแค่อุณหภูมิร่างกายแต่โชคร้ายถูกตรวจอย่างละเอียดและยาเสพติดที่ตนติดตัวไว้เสพเอง แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อคำให้การเนื่องจากตรวจสอบประวัติพบว่านายชลวิทย์ เคยถูกจับคดีเสพยาเสพติดและรถเก๋งที่ใช้ก็ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมเบื้องต้นเชื่อได้ว่าผู้ต้องหารายนี้น่าจะนำยาเสพติดมาส่งให้ลูกค้าโดยอาศัยช่วงที่มีการตั้งด่านคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด 19 เจ้าหน้าที่คงไม่ตรวจเข้มแต่ตนได้กำชับทีมงานผู้ใต้บังคับบัญชาที่ประจำด่านตรวจทั้ง 4 ด่านและจุดตรวจของโรงพักในพื้นที่อีก 16 จุดไปแล้วว่าให้ตรวจค้นอย่างเข้มข้นทั้งเรื่องไวรัสโควิด 19 ยาเสพติดอาวุธปืนที่ผ่านมาสารถจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายทั้งฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉิน ยาเสพติดและอาวุธปืนได้แล้วหลายรายสำหรับผู้ที่ผ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่ตั้งด่านตรวจจนถึงปัจจุบันรวมกว่า 176 รายเฉลี่ยคืนละประมาณ 20 รายส่วน ผู้ต้องหารายนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาครอบครองยาเสพติดประเภท 1 ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและกระทำการฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน ควบคุมตัวส่งดำเนินคดีพร้อมกับประสานไปยังพื้นที่ จ.อ่างทอง ให้ช่วยตรวจสอบเครือข่ายของผู้ต้องหารายนี้ด้วย
ภัทรพล พรมพัก/สุพรรณบุรี