สมุทรปราการ    ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยกระดับมาตรการการคัดกรองผู้โดยสารเพื่อรองรับและป้องกันการระบาดของโรค COVID-19

สมุทรปราการ    ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยกระดับมาตรการการคัดกรองผู้โดยสารเพื่อรองรับและป้องกันการระบาดของโรค COVID-19 เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการ

***** เมื่อเวลา 14.30น.วันที่ 4 มี.ค.2563 ที่ ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ สนามบินสุวรรณภูมิ  นายกิตติพงศ์  กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2  นายรวินันท์ โสมา นายแพทย์ชำนาญการ กองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กรมควบคุมโรค พาสื่อมวลชนดู มารตาการการคัดกรองผู้โดยสารเพื่อรองรับและป้องกันการระบาดของโรค COVID-19 เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการ ตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ตามราชกิจจานุเบกษา กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID)) เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตราย

***** นายกิตติพงศ์  กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ได้แพร่อย่างรวดเร็วและกระจายไปหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ประกอบกับ เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 ราชกิจจานุเบกษา กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID)) เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตราย โดยในส่วนของ ทสภ. ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

***** นายกิตติพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบัน ทสภ. ร่วมกับ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พร้อมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดใกล้เคียง จัดตั้งจุดตรวจคัดกรองผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก ทั้งนี้ ในส่วนของการตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาเข้า มีการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนและเครื่องวัดอุณหภูมิหน้าผากและทางหู จำนวน 5 จุด ที่บริเวณจุดตัดอาคารเทียบเครื่องบิน D จำนวน 2 จุด และบริเวณทางเข้าด่านตรวจคนเข้าเมืองจำนวน 3 จุด และในส่วนของการตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาออก มีการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนและเครื่องวัดอุณหภูมิหน้าผากและทางหู จำนวน 4 จุด ได้แก่

  1. จุดตรวจค้นร่างกายและสัมภาระผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โซน 3
  2. จุดตรวจหนังสือเดินทางขาออกโซน 3 ช่องทาง Fast track (หลังเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร Row T)
  3. จุดตรวจหนังสือเดินทางขาออกโซน 2 ช่องทาง Fast track (หลังเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร Row W)
  4. จุดตรวจหนังสือเดินทางขาออกโซน 1 (หลังเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสาร Row A)

***** สำหรับการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ทสภ. ได้มีการจัดหลุมจอดไว้รองรับเที่ยวบินที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงไว้ที่หลุมจอดประชิดอาคาร C, E, F, และ G เป็นการเฉพาะอีกด้วย และจะมีการตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิเมื่อผู้โดยสารเดินทางมาถึงสนามบิน หากมีไข้เกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส มีอาการของระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อย หรือ หายใจลำบาก มีการเดินทางไปยัง หรือ มาจาก หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดของโรคไวรัส COVID-19 ถ้าผู้โดยสารเข้าลักษณะทั้ง 3 อย่างข้างต้นและแพทย์ที่ด่านควบคุมโรคมีความเห็นให้ดำเนินการเข้าพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร ช่องทางเฉพาะ เพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาล ดำเนินการวินิจฉัยตรวจหาเชื้อทางห้องแล็บ

***** นายกิตติพงศ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ทสภ. มิได้นิ่งนอนใจและมีความห่วงใยในสุขอนามัยของผู้โดยสารและผู้ใช้บริการทุกท่าน โดยกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญในเรื่องการรักษาความสะอาดในทุกพื้นที่ภายใน ทสภ. โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่มีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดตามจุดต่างๆ โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาด อาทิ ภายในห้องน้ำ รถเข็นกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร เคาน์เตอร์ให้บริการสายการบิน เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ รวมถึงเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง ลิฟต์ ทางเดินเลื่อน ราวบันได พื้นที่พักคอย เป็นต้น นอกจากนี้ ทสภ. ยังได้มีการติดตั้งเครื่องจ่ายแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ณ บริเวณทางออกประตูเทียบเครื่องบินขาเข้าทุกประตูและพื้นที่อื่น ๆ ที่มีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก ทั้งนี้ ทสภ. ได้ยกระดับเปลี่ยนศูนย์อำนวยความสะดวกให้บริการผู้โดยสารเป็น EMERGENCY OPERATION CENTER เพื่อรองรับสถานการณ์ในช่วงนี้ ณ ห้อง CIP 5 ชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร หมายเลขโทรศัพท์ 0 2132 9950 โดยภายในศูนย์จะมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง เจ้าหน้าที่ ทสภ. สายการบิน ตม. ตำรวจท่องเที่ยว กรมการขนส่งทางบก ฯลฯ นั่งประจำศูนย์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคอยช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารรวมถึงเพื่อช่วยดูแลประสานงานในการส่งผู้โดยสารคนไทยที่ไปทำงานที่ประเทศเกาหลีเดินทางกลับภูมิลำเนาโดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานต่างๆ และขณะนี้ ทสภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในระหว่างพิจารณาแนวทางการปฎิบัติงานเพิ่มเติมเพื่อยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ให้มากขึ้น

*********************************************

วิวรรธน์ ยั่งยืนเตชานนท์ สมุทรปราการ 0916986925