สุพรรณบุรี   วงจรปิดจับภาพโจรใจบาปลักเงินพุ่มผ้าป่าเจ้าคณะตำบลจับตัวรอตำรวจเกือบชม.อ้างรอกินข้าว

สุพรรณบุรี   วงจรปิดจับภาพโจรใจบาปลักเงินพุ่มผ้าป่าเจ้าคณะตำบลจับตัวรอตำรวจเกือบชม.อ้างรอกินข้าว
ที่ จ.สุพรรณบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเข้าไปลักเงินพุ่มผ้าป่าที่วัดสารภี ต.รั้วใหญ่ อ.เมืองสุพรรณบุรี และถูกเจ้าอาวาสพร้อมญาติโยมช่วยกันจับไว้ได้ จึงเดินทางไปตรวจสอบพระครูศรีสุธรรมนาถ เจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบลรั้วใหญ่ พร้อมพระลูกวัดและญาติโยมกำลังช่วยกันทำความสะอาดจัดสถานที่เตรียมสวดเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในวันที่ 28 มิ.ย.


จากการสอบถามพระครูศรีสุธรรมนาถ เจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบลรั้วใหญ่ เล่าว่าก่อนเกิดเหตุช่วงสายวันที่ 27 มิ.ย.ขณะที่อาตมารวมทั้งพระลูกวัดและญาติโยมได้ช่วยกันทำความสะอาดจัดเตรียมความพร้อมสถานที่เพื่อจะประกอบพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว อยู่นั้นสังเกตเห็นคนร้ายเป็นชายรูปร่างล่ำสันขับขี่รถจักรยานยนต์ สวมหมวกกันน็อกเข้ามาจอดบริเวณหน้าวิหารพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ จากนั้นคนร้ายได้เดินเข้าไปภายในวิหาร

จากนั้นไม่นานคนร้ายเดินเข้าไปในวิหารหลวงพ่อพุทธมุนีศรีมงคล หลวงใหญ่ พระประธาน พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ก่อนจะเดินกลับไปที่วิหารพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ อาตมาเห็นผิดสังเกตจึงได้ให้ญาติโยมที่มาช่วยจัดเตรียมสถานที่ไปคุมเชิงที่รถจักรยานยนต์ของคนร้ายเอาไว้ ส่วนอาตมาได้ไปหยิมไม้คมแฝกมาถือไว้ก่อนจะเดินไปถามคนร้ายว่าได้ขโมยเงินที่ติดพุ่มผ้าป่าไปหรือไม่ เบื้องต้นคนร้ายปฏิเสธว่าไม่ได้เอาไปอาตมาจึงบอกว่าถ้าเปิดกล้องวงจรปิดดูและพบว่าเป็นคนขโมยเงินไปอาตมาจะตีด้วยไม้คมนะ คนร้ายกลัวถูกตีจึงยอมรับสารภาพว่าเป็นคนเอาเงินไปและยอมรับผิดพร้อมกับคืนเงินที่ติดพุ่มผ้าป่าจำนวน 90 บาท

พระครูศรีสุธรรมนาถ เจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบลรั้วใหญ่ เล่าอีกว่าจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของทางวัดพบว่าคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาจอดในวัดเพียงลำพังจากนั้นคนร้ายทำทีเหมือนคนมาทำบุญโดยเดินสำรวจก่อนว่าปลอดภัยหรือไม่เมื่อเห็นปลอดภัยคนร้ายจึงเดินไปลอดท้องช้างสะเดาะเคราะห์ก่อนแล้วเดินมาหยิบเงินพุ่มผ้าป่าที่ญาติโยมเพิ่งจะทำบุญติดไปก่อนหน้าไม่ถึงชั่วโมง สอบถามคนร้ายเบื้องต้นทราบชื่อนายเอกพจน์ แก้วประกาฬ อายุ 31 ปีอยู่บ้านเลขที่ 109/1 หมู่ 3 ต.ลาดงา อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา รับสารภาพว่าทำงานเป็นช่างซ่อมรถยนต์ ก่อนถูกจับได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาทำบุญไหว้พระ 9 วัดในเขตสุพรรณบุรี ก่อนจะมาที่วัดสารภี ตรวจค้นในตัวคนร้ายพบเงินอยู่ในตัวอีกประมาณ 1,000 กว่าบาทหลังจากควบคุมตัวคนร่ายเอาไว้ได้แล้วจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มารับตัวไปตรวจสอบประวัติและตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด แต่กว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมารับตัวไปอาตมาต้องยืนคุมตัวรอเจ้าหน้าที่อยู่เกือบ ชั่วโมงโดยเจ้าหน้าที่อ้างว่ารอกินข้าว

ส่วนอาตมานอกจากทำงานจัดเตรียมสถานที่แล้วยังไม่ได้ฉันเพลเนื่องจากเลยเวลาฉันไปแล้ว อาตมาอยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าอยากให้ทำงานให้เร็วกว่านี้การทำงานล่าช้าแบบนี้หากคนร้ายมีอาวุธ หรือมีเพื่อร่วมแก๊งมาด้วยจะทำยังไงผู้ต้องหาอาจหลบหนีไปได้หรือพระชาวบ้านอาจถูกทำร้ายก็เป็นได้ พร้อมกันนี้อยากฝากไปถึงวัด หรือสถานที่ต่างๆที่มีตู้รับบริจาคขอให้หมั่นสังเกตว่ามีบุคคลต้องสงสัย  โดยเฉพาะคนที่ขับรถจักรยานยนต์สวมหมวกกันน็อกเข้ามาในสถานที่ให้พึงระวังอย่ามองเฉพาะรูปร่างภายนอก สมัยนี้คนร้ายมักจะมาในคราบผู้ดีส่วนที่จับคนร้ายได้ในครั้งนี้สิ่งแรกเชื่อว่าเป็นเพราะว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดและบารมีหลวงพ่อพุทธมุนีศรีมงคล หรือหลวงพ่อใหญ่ และพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านทั้งในจังหวัดสุพรรณบุรี และต่างจังหวัดให้ความเคารพศรัทธา ประกอบกับกล้องวงจรปิดที่ทางวัดติดตั้งไว้หลายจุดเพื่อป้องกันคนร้ายมาก่อเหตุ

ภัทรพล พรมพัก/สุพรรณบุรี