ททท.ลงพื้นที่ตรัง-สตูล- สงขลา ส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรองเสริมสร้างประสิทธิภาพการกำกับดูแลการบริหารจัดการการท่องเที่ยว กระตุ้นการท่องเที่ยวโลซีซั่น

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ตรัง-สตูล- สงขลา ส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรองเสริมสร้างประสิทธิภาพการกำกับดูแลการบริหารจัดการการท่องเที่ยว กระตุ้นการท่องเที่ยวโลซีซั่น
ที่ท่าอากาศยานตรัง นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสมัย โชติสกุล รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

เดินทางมาจังหวัดภาคใต้ เพื่อส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรองเสริมสร้างประสิทธิภาพการกำกับดูแลการบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยมีกำหนดพื้นที่จังหวัด ตรัง-สตูล-สงขลา โดยมีนายไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นางสาวนันทวัน ศิริโภคพัฒน์ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานตรัง ภาคส่วนราชการ เอกชนในจังหวัดตรัง และ พนักงานเจ้าเจ้าที่ ททท.ตรัง ให้การต้อนรับ ทั้งนี้จังหวัดตรัง มีการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่องเติบโตในระดับร้อยละ 5-10 ซึ่งในปี 2561 นี้ จำนวนนักท่องเที่ยวโดยประมาณ 1.6 ล้านคน เพิ่มจากปีที่แล้วร้อยละ 10 รายได้หมุนเวียนจากการท่องเที่ยว 9,916 ล้านบาท และในปี 2562 นี้ ทาง ททท.ตรัง ตั้งเป้าไว้ว่ารายได้ต้องเพิ่มขึ้นจากเดิมรายร้อยละ 10 ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวและพักผ่อนทะเลตรังมากที่สุดคือ กลุ่มสแกนดิเนเวีย (ประกอบด้วย สวีเดน ฟินแลนด์ นอรเวย์ เดนมาร์ก) นอกจากนี้รองลงมาคือ เยอรมัน มาเลเซีย ฝรั่งเศส และตามมาด้วยจีน ในช่วง Green Season มีการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นด้านการท่องเที่ยวเช่น ตรังมาราธอนในวันที่ 24 กรกฎาคม 2562ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาร่วมงานไม่น้อยกว่า 5,000 คน ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท และ ททท.สำนักงานตรัง จะจัดท่องเที่ยวตลาดเชื่อมโยง 3 แห่งประกอบด้วยตลาดสถานีรถไฟ ตลาดเซ็นเตอร์พอย และตลาดชินตา ท้าประลองของกินแบบกลมเกลียว เที่ยวแบบกลมกลืน กับ ททท. นอกจากนี้ยังมีโครงการเที่ยวแบบฟิน กินแบบสุนทรีในเดือนกันยายน และจะนำเสนอวัฒนธรรมการกิน ตรัง…ยุทธจักรความอร่อย แก่คณะกรรมการเพื่อยกระดับด้านการท่องเที่ยว ต่อไป
ด้าน นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวพัฒนาเมืองรอง และพยายามสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในส่วนที่จะเสริมสร้างเศรษฐกิจรากฐานโดยให้ชุมชนชาวบ้านได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว จึงมาดูโอกาสที่จะพัฒนาจังหวัดตรังและสตูลมีอะไรบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่จะพยายามนำสินค้าและบริการชุมชนขึ้นไปขายกับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ โดยมาดูว่าศักยภาพของพื้นที่มีอะไรบ้าง อาทิ ผ้าบาติกว่ามีลู่ทางโอกาสพัฒนารูปแบบคุณภาพให้พอใจกับนักท่องเที่ยวโดยทาง ททท.จะเป็นตัวเชื่อมโยงนำตัวนักท่องเที่ยวและสินค้าชุมชนที่จะทำให้เศรษฐกิจของพื้นที่ดีขึ้น ชาวบ้านจะได้มีโอกาสขายสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของจังหวัดตรังจะให้การส่งเสริมในส่วนของการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้อย่างไร ภาพรวมของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองนั้นน่าพอใจมาก ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นชาวบ้านมีรายได้เพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งที่เป็นนโยบายรัฐบาลอยากให้ ททท.ทำให้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจปีนี้ที่เจอภาวะสงครามทางการค้าทั้งในเรื่องของการส่งออกและเรื่องต่างๆอาจมีปัญหา ดังนั้นตัวที่นักท่องเที่ยวๆ เมืองหลักและเมืองรองด้วยการสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวให้เชื่อมโยงกัน สำหรับรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีแรก เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ภาพรวมทั้งปีอยากให้นักท่องเที่ยวโดยรวม 40 ล้านและรายได้เข้าประเทศ 2 ล้านล้านขึ้นไป ส่วนทางด้าน นางสาวนันทวัน ศิริโภคพัฒน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดตรังเอง ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่ง ยุทธจักรความอร่อย มาถึงที่จังหวัดตรัง ต้องไม่พลาดในเรื่องของความอร่อย อาหารจานเด็ดอย่างเช่น หมูย่างเมืองตรัง หอยจ้อปู ติ่มซำ เมื่อนักท่องเที่ยวมาจังหวัดตรังแล้วจะต้องได้ลิ้มลองอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดตรัง เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเมืองยุทธจักรความอร่อย จังหวัดตรังได้เลย ซึ่งจังหวัดตรังเองเรียกได้ว่าเรามีอาหารวันละ 9 มื้อ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดตรังก็ได้ลิ้มลองอาหารกันได้ทั้งวัน
มนต์เจริญ ศรีมงคล จ.ตรัง