อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วยคณะลงพื้นที่เกาะลิบง

อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วยคณะลงพื้นที่เกาะลิบง เพื่อดูอาการของลูกพะยูนที่ได้รับความช่วยเหลือมาจากจังหวัดกระบี่ โดยลูกพะยูนไม่ยอมไปไหน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง โดยการป้อนนมและหญ้าทะเล
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วยคณะ ลงพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เพื่อดูอาการของลูกพะยูนเพศเมีย โดยตั้งชื่อมาเรียม อายุไม่เกิน 2 ปี น้ำหนัก 20 กิโลกรัม ความยาวประมาณ 1.2 เมตร ไม่พบร่องรอยบาดแผลแต่อย่างใด หลังพบว่าเกยตื้นอยู่ที่หาดอ่าวทึง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ในสภาพอิดโรยอ่อนแรง จนกระทั่งทางสัตวแพทย์กรม ทช.ได้ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งการช่วยเหลือลูกพะยูนนั้นได้มาดูแลและรักษาที่จังหวัดตรัง โดยทีมสัตว์แพทย์หญิง พัชราภรณ์ แก้วโมง นำทีมสัตวแพทย์มาดูแลตั้งการการรักษา การป้อนนม ส่วนเจ้าหน้าที่จะคอยพาลูกพะยูนไปกินหญ้าทะเล โดยเจ้าหน้าที่จะคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากลูกพะยูนไม่ยอมว่ายออกทะเล จะอยู่บริเวณชายฝั่ง เมื่อน้ำลงลูกพะยูนจะเกยตื้น ขณะนี้ลูกพะยูนมีสุขภาพดีขึ้น กินนมได้ประมาณ 2พัน ซีซี. กินหญ้าทะเลได้ เจ้าหน้าที่ต้องคอยฝึกให้ลูกพะยูนพยามออกหากินเอง เพื่อที่จะได้ว่ายออกทะเลได้


นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่าการเดินทางลงดูลูกพะยูนในวันนี้ เพื่อต้องการให้ทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ฯรักษาพะยูนให้ดีที่สุด เนื่องจากพะยูนทั่วประเทศมีเพียง 200 กว่าตัวเท่านั้น และมีมากที่สุดที่จังหวัดตรัง กว่า 180 ตัว ดังนั้นชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันดูแลรักษาเอาไว้ ในปัจจุบันเชื่อว่าไม่การล่าพะยูนเอามาทำเครื่องรางของขลังแล้ว แต่ปัญหาที่พบคือพะยูนจะติดเครื่องมือของชาวประมง ไม่สามารถว่ายหนีออกมาได้จึงทำให้เสียชีวิต จึงขอความร่วมมือจากชาวประมง อย่าทำประมงใกล้กับบริเวณที่พะยูนอาศัยอยู่ หากพะยูนว่ายเข้าไปติดอวนก็ขอให้รีบปล่อยทันที เพื่อที่พะยูนจะได้อยู่คู่ท้องทะเลตรังต่อไป
มนต์เจริญ ศรีมงคล จ.ตรัง