กาญจนบุรี   ผบช.ภ.7 ลงพื้นที่ชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ ติดตามคดียางเถื่อน

กาญจนบุรี   ผบช.ภ.7 ลงพื้นที่ชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ ติดตามคดียางเถื่อน หลังจากทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า จับยางพาราเถื่อนของเพื่อนบ้าน 15,000 โล มูลค่า 420,000 บาท รถของกลาง3คัน เมื่อคืนวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 จากเหตุการณ์เมื่อ คืนวันที่ 26 พ.ย.2566 พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผู้บังคับหน่วย หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พ.อ.สุรเดช เมฆนุวงศ์ รองผู้บังคับหน่วย หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทหารประจำจุดตรวจช่องทางบ่อขยะว่า มีรถขนยางพาราเถื่อน จากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามา ก่อนมุ่งหน้าสู่ด่านความมั่นคงบ้านน้ำเกิ๊ก
จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจบ้านน้ำเกิ๊กให้ทำการตรวจสอบ พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วออกติดตาม ก่อนจะไปพบว่ารถดังกล่าวทั้ง3คันจอดหลบอยู่ในเส้นทางเข้าน้ำตกตะเคียนทอง หมู่ 9 บ้านพระเจดีย์สามองค์ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยรถทั้ง3คันคลุมด้วยผ้าใบอย่างมิดชิดเจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณขอเข้าตรวจค้นรถ3คันทั้งหมด ส่งกลิ่นเหม็นแรง พบเต็มคันรถทั้ง3คัน น้ำหนัก คันละประมาณ 5000 กิโลกรัมรวมน้ำหนักลดทั้งสามคันโดยประมาณ 15,000 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าปัจจุบันราคากิโลกรัมละ 28 บาทรวมเป็นมูลค่า 420,000 บาท จึงได้เข้าทำการควบคุมและประสาน หน่วยตรวจพืชเกษตรด่านสังขละบุรี กองการยางแห่งประเทศไทย ด่านกักกันสัตว์ระหว่างประเทศจังหวัดกาญจนบุรี ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสังขละบุรี ร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134 ร้อย อส. อำเภอสังขละบุรี ทำการตรวจสอบ ก่อนจะนำคนขับรถและรถทั้ง3คันมาที่ด่านความมั่นคงบ้านน้ำเกิ๊ก เพื่อทำอายัดรถยนต์ และยางทั้งหมดไว้ เพื่อทำการการตรวจสอบที่มาของยางทั้งหมด จากการสอบถามคนขับรถทั้ง3คนในเบื้องต้นให้การปฎิเสธโดยอ้างว่ายางทั้งหมดเป็นยางในประเทศไทย โดยมีผู้ว่าจ้างพวกตนให้ไปส่งโรงงานยางพาราแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี และอ้างว่ารับยางมาจากสวนแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์


เพื่อความชัดเจนเมื่อวานนี้ 29 พ.ย.2566 เจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำคนขับรถทั้งหมดไปชี้จุดที่อ้างว่าไปรับยาง ซึ่งจากการลงพื้นที่ไม่พบร่องรอยของการนำยางทั้ง 5000 กิโลกรัมมากองไว้ ขณะที่สอบถามคนงานในสวนยางให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าในสวนไม่เคยมีการนำยางมากองไว้ในลักษณะที่คนขับรถกล่าวอ้าง และการขนยางออกไปขายจะไม่มีการจ้างรถมาขน เพราะที่ผ่านมาจะใช้รถยนต์ของสวนขนยางไปขายเอง
ในเวลาต่อมาคนขับรถทั้ง 3 คันได้รับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่ายางทั้งหมดเป็นยางที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยนำเข้ามาทางช่องทางบ่อขยะ หมู่ 9 บ้านพระเจดีย์สามองค์ ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกับบ้านไร่อ้อย เมืองพยาตองซู ประเทศเมียนมา และได้รับค่าจ้างคันละ 2,500 บาท


ซึ่งในเช้าวันนี้ พล.ต.ท นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) ได้เดินทางลงพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ เพื่อตรวจสอบการนำเข้ายางทรานสิทจากประเทศเมียนมาไปยังประเทศมาเลเซีย พร้อมซักถามขั้นตอนการนำเข้าและการตรวจสอบยางที่นำเข้าจากเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร เจ้าหน้าที่กองการยางและเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้าประจำด่านเจดีย์สามองค์ ก่อนจะเดินทางไปยังช่องทางบ่อขยะ เพื่อสอบถามเหตุการณ์จากทหารประจำด่านที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนเดินทางมาตรวจดูยางพาราทั้ง3คันที่เจ้าหน้าที่ทำการอายัดไว้ที่ด่านน้ำเกิ๊ก ก่อนจะเดินทางมาประชุมกับนายรณภพ เวียงสีมา รอง ผวจ.กาญจนบุรี พ.อ พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรสังขละบุรี นายปัญญา นามสง่า ผอ.ส่วนบริการด่านศุลกากรสังขละบุรี เจ้าหน้าที่กองการยาง เจ้าหน้าที่เกษตรกรอำเภอสังขละบุรี ก่อนจะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าได้กำชับเจ้าหน้าที่ผ็ปฎิบัติงานในพื้นที่ให้มีความเข้มงวดในการปฎิบัติหน้าที่ป้องกันการลักลอบนำยางเถือ่นเข้ามาในประเทศ และได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค7เข้ามาร่วมในการสอบสวนขยายผลให้ทราบถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการลักลอบนำยางเถื่อนเข้ามาในประเทศ หากพบว่าผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ขณะที่นายปัญญา นามสง่า ผอ.ส่วนบริการด่านศุลการกรสังขละบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าสาเหตุที่ผ่านมามีการลักลอบนำยางจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายในประเทศไทยเนื่องจากขณะนี้ไม่สามารถขายยางได้ในประเทศเมียนมาเนื่องจากสถานการณ์การสู้รบ ประกอบกับราคาที่ซื้อขายในเมียนมาอยู่ที่ ก.ก.ละ 17-20 บาท ขณะที่ในประเทศไทยอยู่ที่ 27-29 บาท ทำให้มีคนบางกลุ่มลักลอบนำยางข้ามชายแดนมาขายในประเทศไทย
เกษร เสมจันทร์ กาญจนบุรี