กาญจนบุรี นักท่องเที่ยวยังคงร่วมทำบุญใส่บาตร และเที่ยวชมสะพานมอญท่ามกลางฝน

กาญจนบุรี  นักท่องเที่ยวยังคงร่วมทำบุญใส่บาตร และเที่ยวชมสะพานมอญท่ามกลางฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่จังหวัดกาญจนบุรี สั่ง 2 อำเภอ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก 30 ก.ค.-3 ส.ค.66
เช้าวันนี้ 30 กรกฎาคม 2566 ที่บริเวณหมู่บ้านวังกะหมู่ที่ 2 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางมาทำบุญใส่บาตร เลือกกินอาหารเช้า ซื้อสินค้าที่ระลึก และเดินเที่ยวบนสะพานมอญ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสายตั้งแต่ช่วงเย็นของวานที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวต้องซื้อเสื้อกันฝนและร่มเพื่อไม่ให้เปียก ซึ่งกลายเป็นภาพที่แปลกตาที่ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก จนทำให้หลายคนอดที่จะหยิบกล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์มือถือบันทึกภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก


ขณะที่วันนี้( 30 ก.ค.66) นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ผู้อำนวยการจังหวัด เปิดเผยว่า ด้วยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก. ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง กอปรกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (206/2566) ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 เวลา 17.00 น. แจ้งว่า ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
โดยจังหวัดกาญจนบุรีมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม 2566 ได้แก่ อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกัน รับมือ ลดผลกระทบ และสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนจากสถานการณ์ดังกล่าว จึงขอให้ดำเนินการดังนี้


1.ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกระดับและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด รวมถึงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักหรือบริเวณฝนสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ พร้อมประเมินสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยพื้นที่ลุ่มต่ำอาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง พื้นที่ลาดเชิงเขาอาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ให้รีบแจ้งเตือนภัยประชาชนในพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ เตรียมพร้อมทรัพยากร เครื่องจักรกลสาธารณภัยและแผนเผชิญเหตุ รวมถึงกำลังเจ้าหน้าที่ ให้มีความพร้อมบรรเทาภัย ปฏิบัติงานอำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ขอให้แจ้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรีทราบโดยเร็ว และสำหรับพื้นที่ที่มีสถานการณ์น้ำท่วมขัง ขอให้ระมัดระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว ในกรณีที่มีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายให้ตัดกระแสไฟฟ้าทันที
2.ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ เช่น สื่อสังคมออนไลน์ วิทยุชุมชน หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน โดยประสานและบูรณาการหน่วยงานเครือข่าย จิตอาสา ภาคเอกชน เฝ้าระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง


3.หากพบเห็นสถานการณ์สาธารณภัย ได้รับผลกระทบหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งเหตุ ผ่านทางโทรศัพท์สายด่วน 1784 หรือแจ้งผ่านไลน์”ปก.รับแจ้งเหตุ 1784″ โดยดำเนินการเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรายงานสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรีทราบทันที เมื่อเกิดเหตุ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 034-515998 หรือโทรสาร 034-516795 เพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป
ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำทั้ง3สายของอำเภอสังขละบุรี อันได้แก่ แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำรันตี และแม่น้ำบี่คลี่ มีระดับน้ำที่สูงขึ้น และน้ำเปลี่ยนเป็นสีขุ่นโคลน ซึ่งเกิดจากน้ำป่าที่ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา
เกษร เสมจันทร์ กาญจนบุรี