ตรัง ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์จัดโครงการต่อยอดโครงการเลี้ยงโคพันธุ์พื้นเมือง

ผู้อำนวยการศูนย์ประสานช่วยเหลือกำลังพลที่ปลดพิการทุพพลภาพและครอบครัว ฝ่ายกำลังพลศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมตืดตามผลการดำเนินการโครงการประกอบอาชีพเสริมที่เพิ่มรายได้แก่กำลังพลกองทัพบกที่พิการทุพพลภาพและครอบครัว โดยได้รับโครงการต่อยอดโครงการเลี้ยงโคพันธุ์พื้นเมือง


ที่กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 15 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง พลตรี มานพ แฝดกลาง ผู้อำนวยการศูนย์ประสานช่วยเหลือกำลังพลที่พิการทุพพลภาพและครอบครัว ฝ่ายกำลังพลศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินการโครงการประกอบอาชีพเสริมที่เพิ่มรายได้แก่กำลังพลกองทัพบกที่พิการทุพพลภาพและครอบครัว โดยมี พันเอกสรรัศมิ์ นิลสลับ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 15 ค่ายพระยารัษฏานุประดิษฐ์ และคณะแม่บ้านทหารบก สาขากองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 15 ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมทั้งนำไปที่บ้านพักหลังแรกของ จ่าสิบเอกสันติ ไปดี บิดา ใช้สิทธิแทนนางสาว จุฑารัตน์ ไปดี อายุ 17 ปี พิการทางการเรียนรู้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการจากยริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด จำนวน 114,245 บาท ในการซื้อแม่พันธุ์วัวมาเลี้ยง และรับการสนับสนุนจาก บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด จำนวน 112,420 บาท ในการซื้อแม่พันธุ์วัวและสร้างโรงเรือน ส่วนบ้านพักหลังที่สองเป็นของ นางวราภรณ์ เยาวกุล มาราใช้สิทธิแทน เด็กชาย เฉลิมภพ เยาวกุล อายุ 5 ปี พิการซ้ำซ้อน(สติปัญญา การเรียนรู้ การเคลื่อนไหว) ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการจากยริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด จำนวน 114,245 บาท ในการซื้อแม่พันธุ์วัวมาเลี้ยง และรับการสนับสนุนจาก บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด จำนวน 112,420 บาท ในการซื้อแม่พันธุ์วัวและสร้างโรงเรือน ซึ่งการช่วยเหลือทั้ง 2 รายนั้น ได้ดำเนินโครงการต่อยอดโครงการเลี้ยงโคพันธุ์พื้นเมือง เมื่อเลี้ยงครบตามที่กำหนดก็สามารถจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับครอบครัวอยู่อย่างไม่เดือดร้อน


สำหรับโครงการดังกล่าวตั้งขึ้นสืบเนื่องมาจากกองทัพบก ได้จัดส่งกำลังพลไปปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันประเทศตามแนวชายแดน, การรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ รวมถึงการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้จากการปฏิบัติหน้าที่ในหลายมิติ ส่งผลทำให้กำลังพลบางส่วนเสียชีวิต บางส่วน ได้รับบาดเจ็บต้องเข้ารับการรักษาตัว บางรายรักษาหาย บางรายเกิดความพิการจนต้องปลดพิการออกจาก ราชการไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของกำลังพลดังกล่าวและครอบครัวทำให้ได้รับความ เดือดร้อน แม้ว่าจะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากทางราชการแล้วก็ตาม ผู้บัญชาการทหารบก มีความห่วงใยในชีวิตความเป็นอยู่ของกำลังพล โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับ ผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการดังกล่าว

จึงมีดำริให้จัดทำโครงการเพื่อให้กำลังพลกองทัพบกที่ปลด พิการทุพพลภาพ รวมทั้งครอบครัวของกำลังพลกองทัพบกที่มีความพิการ ได้ประกอบอาชีพเสริม เพื่อให้คน เหล่านั้นมีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีเกียรติและ ศักดิ์ศรี ไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่น และได้รับการยอมรับและยกย่องจากสังคม แม้ว่า กำลังพลดังกล่าว จะปลด พิการทุพพลภาพออกจากราชการไปแล้วก็ตาม กองทัพบกยังคงให้ความสำคัญ ถือว่าเป็นบุคคลที่มีความ เสียสละ ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ มีคุณค่าต่อกองทัพบก และกองทัพบกต้องให้การดูแล และช่วยเหลือตลอดไป***(รบกวนช่วยเบลอภาพเด็กด้วยครับ)
มนต์เจริญ ศรีมงคล จ.ตรัง