สุพรรณบุรี เปิดรพ.สนามพบผู้ป่วยเพิ่มอีก31รายศาลากลางสุพรรณมีผู้ติดเชื้อ12ราย
สุพรรณบุรีผู้ป่วยโควิด19เพิ่มไม่หยุดศูนย์ปฏิบัติการ COVID-19 สุพรรณบุรี รายงานตั้งแต่เดือนเมษายน 2564ถึงปัจจุบันมีผู้ป่วยสะสมรวม 703 รายรักษาอยู่ 225 รายรักษาหายแล้ว 501 รายเสียชีวิต 14 ราย ล่าสุดพบผู้ป่วยยืนยันอีก31รายผู้ว่าสั่งข้าราชการศาลากลางเวิร์คฟอร์มโฮมวันศุกร์พร้อมกำชับนายอำเภอสาธารณสุขเข้มคนเข้าพื้นที่
ล่าสุดนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายปรีชา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นาแพทย์วรงค์ รุ่งเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี นพ.รัฐพล เวทสรณสุธี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมทีมรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ศูนย์อำเภอเดิมบางนางบวชจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเปิดเป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อให้กำลังใจและดูความพร้อมของทีมแพทย์พยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำโรงพยาบาลสนาม โดยมีนายอำเภอเดิมบางนางบวช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเดิมบางนางบวช ร่วมด้วย
นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีว่าสุพรรณบุรีมีผู้ป่วยสะสมตั้งแต่เดือนเมษายนถึงปัจจุบันรวม 703รายรักษาตัวอยู่ 225 รายซึ่งเกินกว่าจำนวนเตียงที่ทีมสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรีประมาณการเอาไว้โดยเตรียมเตียงเอาไว้ 220 เตียงแต่ขณะนี้มีผู้ป่วยถึง225รายตอนนี้มีเตียงตามโรงพยาบาลต่างๆจำนวน233เตียงซึ่งตอนนี้นับว่าโรงพยาบาลได้รับผู้ป่วยเต็มศักยภาพทั้ง10โรงพยาบาล ล่าสุดพบผู้ป่วยยืนยันอีก31รายเพราะฉะนั้นเราจึงต้องเตรียมสถานที่รักษาตัวของผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น ทั้งฮอสพิเทล ซึ่งเรามีอยู่ 1 ที่คือวังยางรีสอร์ท ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนคือโรงพยาบาลศุภมิตรจัดทีมแพทย์พยาบาลไปรักษาคาดว่าจะสามารถรับผู้ป่วยได้ประมาณ20 รายและที่โรงพยาบาลสนามอำเภอเดิมบางนางบวชแห่งนี้สามรรถรับผู้ป่วยได้จำนวน 104 เตียงทีมแพทย์พยาบาลหลักก็จะเป็นของโรงพยาบาลเดิมบางนางบวช และก็จะสลับสับเปลี่ยนจากโรงพยาบาลศรีประจันต์โรงพยาบาลสามชุก ซึ่งแล้วแต่สถานการณ์ว่าที่โรงพยาบาลสนามจะมีผู้ป่วยมากน้อยเพียงใด
สำหรับมาตรการเราได้มีมาตรการที่เข้มข้นเพิ่มขึ้นจากเดิมคือท่านต้องป้องกันตนเองเช่น DMH-TT ท่านต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อนอกเคหะสถานถ้าไม่สวมจะมีความผิดส่วนร้านอาหารก็ยังเปิดให้บริการนั่งรับประทานในร้านได้เหมือนเดิมแต่ห้ามจำหน่ายสุราและห้ามนั่งดื่มสุราในร้าน ส่วนที่เข้มข้นคือการดูคนที่มาจากต่างพื้นที่ซึ่งตนมีหนังสือสั่งการและได้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 ท่านรวมทั้งปลัดจังหวัดให้ลงไปกำชับนายอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม.ทุกอำเภอ ให้เข้มงวดสูงสุดในเรื่อง 1. การกักตัวผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง 2. กรณีเดินทางไปค้าขายในพื้นที่เสี่ยงต่อเนื่อง ให้แยกตัวออกจากครอบครัว 3.ให้นายอำเภอให้ความสำคัญ และติดตามการปฏิบัติของ กำนันผู้ใหญ่บ้าน สาธารณสุข อสม. 4 ให้ปลัดจังหวัดกำชับติดตามการปฏิบัติของ นายอำเภอ 5 ให้รองผู้ว่าฯ ติดตามการปฏิบัติของ นายอำเภอ ตามพื้นที่รับผิดชอบพร้อมตั้งจุดตรวจจุดสกัดรวม 3 จุดประกอบด้วย ที่ อ.อู่ทอง เขตติดต่อ จังหวัดกาญจนบุรี ที่ อ.สองพี่น้อง บริเวณหว้าวัดศรีเฉลิมเขต พื้นที่ติดต่อ จังหวัดนครปฐม และ ที่ อ.บางปลาม้า เส้นทางจากกรุงเทพเข้ามาสุพรรณบุรี
และในวันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม ตนได้สั่งการให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ที่ศาลากลางจังหวัด ให้เวิร์คฟอร์มโฮม และให้เจ้าหน้าที่เข้ามาทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดศาลากลางทั้งหมดทุกชั้นเนื่องจากมีผู้ที่ปฏิบัติงานอยู่ในสำนักงานจังหวัด สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานท้องถิ่นจังหวัด และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ติดเชื้อโควิดรวม 12 รายซึ่งเข้ารับการรักษาแล้วและตนได้สั่งการให้ผู้ที่ปฏิบัติงานที่ศาลากลางทั้งหมดกว่า200 คนไปตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด19ที่ โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช อย่างไรก็ตามตนขอความร่วมมือประชาชนและทุกภาคส่วน ให้ช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19ในจังหวัดสุพรรณบุรีลำพังเจ้าหน้าที่อาจดูแลไม่ทั่วถึงเพราะกลุ่มเสี่ยงมีเยอะมากขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ถ้าเห็นใครที่แปลกหน้าซึ่งไม่ใช่คนในพื้นที่หรือคนในหมู่บ้านที่ไปทำงานที่อื่นนานๆเข้ามาพักในพื้นที่ขอให้ช่วยแจ้งกำนันผู้ใหญ่บ้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือนายอำเภอ ให้มาตรวจดูเพื่อความปลอดภัยขอให้ช่วยกัน
ภัทรพล พรมพัก/สุพรรณบุรี
