สุพรรณบุรี   ประมงขีดเส้น15วันหลังปิดประกาศผู้เลี้ยงปลาในเขื่อนกระเสียวต้องรื้อกระชัง

สุพรรณบุรี   ประมงขีดเส้น15วันหลังปิดประกาศผู้เลี้ยงปลาในเขื่อนกระเสียวต้องรื้อกระชัง
ประมงจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนา ประมงน้ำจืดสุพรรณบุรี หน่วยป้องกันปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนกระเสียว สำนักชลประทาน ที่ 12 โครงการบำรุงรักษากระเสียว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้นำท้องที่ ปปชจังหวัดสุพรรณบุรี และ อำเภอด่านช้าง พร้อมสื่อมวลชนหลายแขนง ได้ลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนกระเสียวเพื่อสำรวจข้อมูลกระชังปลา พร้อมเก็บหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศ สัมภาษณ์ และชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่แก่ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในอ่างเก็บน้ำกระเสียวเพื่อให้รื้อกระชังปลาออกจากเขื่อนหลังเกษตรกรผู้ประกอบการทำผิดกฎหมายประมงเลี้ยงปลาในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตจนเกิดเป็นข้อพิพาทระหว่างเกษตรกรและหน่วยราชการ


ที่ จ.สุพรรณบุรี นายเดชา รอดระรัง ประมงจังหวัดสุพรรณบุรี นายสิทธิศักดิ์ แย้มพรายภิรมย์ นายอำเภอด่านช้าง นายนราชัย มีอุระ พนักงานไต่สวน ปปช.จังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับ ศูนย์วิจัยและพัฒนา ประมงน้ำจืดสุพรรณบุรี หน่วยป้องกันปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนกระเสียว สำนักชลประทาน ที่ 12 โครงการบำรุงรักษากระเสียว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้นำท้องที่ พร้อมสื่อมวลชนหลายแขนง ได้ลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนกระเสียวเพื่อสำรวจข้อมูลกระชังปลา พร้อมเก็บหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศ และชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่แก่ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในอ่างเก็บน้ำกระเสียวที่กระทำผิดกฎหมายเพื่อเตรียมดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย


นายเดชา รอดระรัง ประมงจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่าตามที่ผู้ตรวจราชการกรมประมงและ ผอ.กองกฎหมายกรมประมงได้มาประชุมร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่และกำหนดกระบวนการในการทำงานโดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่สำรวจจำนวนแพเลี้ยงปลาในกระชังว่าปัจจุบันมีทั้งหมดเท่าไหร่ข้อมูลการเลี้ยงไม่ว่าจำนวนปลาที่คงอยู่เริ่มเลี้ยงตั้งแต่เมื่อไหร่และจับผลผลิตเมื่อไหร่หลังจากได้ข้อมูลครบถ้วนก็จะประกาศทำหนังสือแจ้งให้เจ้าของให้ทำการรื้อถอนภายใน 15 วันแต่ถ้าไม่ทราบตัวก็จะนำประกาศมาติดที่แพให้ดำเนินการื้อถอนภายใน15วันเบื้องต้นได้บอกกล่าวกับผู้ประกอบการบางรายแล้วเพื่อขอความร่วมมือเนื่องจากจำนวนกระชังมีจำนวนมาก 500-700 กระชังประมาณ 36 แพซึ่งค่อนข้างเยอะถ้าเจ้าหน้าที่ดำเนินการอาจจะยุ่งยากส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงปลากระชังในเขื่อนมีทั้งรายเล็กและรายใหญ่อยู่ 1รายมีอยู่ประมาณ 24 แพประมาณ 500 กระชังหลังจากที่ทำการสำรวจทำข้อมูลครบและออกประกาศให้ผู้ประกอบการทราบถ้าภายใน 15 วันไม่ยอมรื้อถอนเราก็จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายเอาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการทำการรื้อถอนตามกฎหมายเนื่องจากปัญหาการเลี้ยงปลากระชังยืดเยื้อมานานผู้ประกอบการได้ขัดขืนไม่ยอมรื้อโดยพยายามหาช่องทางยื้อเวลามาตลอด ประกอบกับมีประชาชนที่เกี่ยวข้องได้ร้องผ่านสื่อโซเชียลว่าทางเจ้าหน้าที่ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายของกรมประมงมาตรา 77 มาตรา 79 การเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุมกราเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณะต้องได้รับการอนุญาต
นายนราชัย มีอุระ พนักงานไต่สวน ปปช.จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าวันนี้ได้มาร่วมตรวจสอบกับทางประมงและทางปกครองว่าจะมีมาตรการบังคับใช้กฎหมายของทางประมงอย่างไร และมาดูพื้นที่ประกอบการจริงซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะจำนวนมากน้อยแค่ไหนและจะมีการติดตามการออกคำสั่งบังใช้กฎหมายของทางประมงต่อไป ที่ผ่านมาได้มีการร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไม่เท่าเทียมกันจึงได้ลงมาดู

ทางด้านนาสิทธิศักดิ์ แย้มพรายภิรมย์ นายอำเภอด่านช้าง กล่าวว่าเรื่องนี้เกิดมา2ปีแล้วเริ่มตั้งแต่ปลาย 2561 ทางราชการไม่ได้นิ่งเฉยเกษตรกรมีทั้งที่อยากเลี้ยงต่อและผู้ที่ไม่เห็นด้วยซึ่งได้ดำเนินการผ่านหลายกระบวนการมาแล้ว ซึ่งก็ต้องเป็นไปตามวิธีปฏิบัติทางปกครอง ที่ผ่านมาได้มีการประสานกันอยู่ตลอดทั้งเชิญผู้ประกอบการมานั่งคุยและมีผู้ประกอบรายหนึ่งยืนยันจะทำต่อให้ได้จะไม่ถอย ขณะเดียวกันก็ต้องเป็นไปตามความเป็นจริง อ่างเก็บน้ำเขื่อนกระเสียวนั้นมีทั้งช่วงฤดูน้ำมากและน้ำน้อย ปีที่ผ่านมามีฝนตกใช้ได้แต่เขื่อนก็ต้องการพร่องน้ำลงไปเพราะมีคณะกรรมการผู้ใช้น้ำในพื้นที่ด้านล่างขอน้ำเพื่อไปทำนาปรังสิ่งที่ตามมาน้ำก็จะลดลงและต้องรอน้ำฝนฤดูหน้าอีกครั้ง อนาคตยังไม่รู้ว่าพอถึงฤดูกาลแล้วฝนจะตกตามฤดูไหมหรือตกช้าขนาดไหนซึ่งอาจจะไปถึงจุดวิกฤติตรงนั้นอีกสิ่งที่ราชการมองคือไม่น่าทำลายธรรมชาติ


ทางด้านนายเดชา เมฆฉาย ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังมากว่า10ปีโดยเลี้ยงกับครอบครัวรวมกว่า 100 กระชังเปิดเผยว่าพวกตนรอคำสั่งรื้อถอนของศาลประปกครองขณะนี้ทางศาลยังไม่มีคำสั่งออกมาจึงยังไม่รู้ว่าศาลจะให้รื้อหรือไม่ให้รื้อ ส่วนที่ประมงให้รื้อย้ายตนก็ไม่พร้อมที่จะย้ายเพราะไม่รู้ย้ายไปไหนเนื่องจากไม่มีที่ และตนมั่นใจว่าตรงนี้ยังเลี้ยงได้เพราะน้ำก็ดี วันที่ 23 เมษายน ตนจะไปยื่นขอให้ทางประมงประกาศเขตให้เราเลี้ยงใหม่
ภัทรพล พรมพัก /สุพรรณบุรี