นครปฐม คณะสงฆ์อำเภอนครชัยศรีช่วยเหลือครอบครัวที่ถูกไฟไหม้ไม่มีแม้ข้าวจะกิน

คณะสงฆ์อำเภอนครชัยศรีช่วยเหลือครอบครัวที่ถูกไฟไหม้ไม่มีแม้ข้าวจะกิน

เมื่อวัน13 มกราคม 2564 ที่บริเวณ หมู่บ้านกฤษฎานคร26 ซอยวาสนา6 บ้านเลขที่150/353 – 150/354 -150/355 หมู่1ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

คณะสงฆ์อำเภอนครชัยศรีพร้อมด้วยเทศบาลตำบลขุนแก้ว นำโดย พระครูสิริปุญญาภิวัฒน์  เจ้าคณะอำเภอนครชัยศรี เจ้าอาวาสวัดสำโรง และพระครูยติธรรมานุยุต หลวงพ่อแป๊ะ เกจิชื่อดังลุ่มน้ำนครชัยศรี เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ ร่วมด้วย นายสมศักดิ์ เอี่ยมพินพันธ์ นายกเทศมนตรีตำบลขุนแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.นครชัยศรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน ลงพื้นที่มอบสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค และเงินสด เพื่อบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือผู้ที่บ้านถูกไฟไห้ม ครอบครัว 3 ครอบครัว ที่บ้านถูกไฟไหม้  เมื่อ เวลา 05.10 น.วันนี้ ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านภายในหมู่บ้านกฤษฎานคร26 ซอยวาสนา6 โดยบ้านต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บ้านเลขที่150/354 หมู่1ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม  เป็นบ้านทาวเฮ้าส์ปลูกติดกันหลายหลัง และได้ประกอบอาชีพขายปลาทูนึ่ง

โดยมีนายนิรันดร์ ชูช่วย กับนางคณนภัส ภมร สองสามีภรรยา เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งภายในบ้านขณะเกิดเหตุได้มีผู้พักอาศัยหลับนอนอยู่ชั้นบนจำนวน 4 คน มีทั้งคนแก่และเด็ก ซึ่งทั้งหมดต้องพังประตูเหล็กดัดหนีลงมาด้านนอกบ้าน ซึ่งต้นเพลิงเกิดจากด้านล่างลุกลามขึ้นไปชั้นบน เพลิงได้ไหม้เผาพลาญบ้านหมดทั้งหลัง ทำให้ผู้ที่หนีรอดออกมาเหลือเพียงเสื้อผ้าติดตัวกันเพียงคนละชุดเดียว ขณะเกิดเหตุรถดับเพลิงจำนวน 5คัน ได้มาที่เกิดเหตุเร่งใช้น้ำฉีดดับเพลิงแต่บ้านต้นเพลิงไฟได้ลุกไหม้จนไม่สามารถช่วยไว้ได้เพลิงเผาวอดทั้งหลัง ส่วนบ้านชิดติดกันอีกสองหลังเสียหายเพียงเล๊กน้อย โดยมีรถดับเพลิงเทศบาลตำบลขุนแก้ว  รถดับเพลิงเทศบาลตำบลนครชัยศรี รถดับเพลิง อบต.หอมเกร็ด  ทีมดับเพลิงมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นคปฐม เข้าระงับเหตุ ใช้เวลาร่วมชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้  แต่มีผู้บาดเจ็บ2รายที่เป็นเจ้าของบ้านต้นเพลิง   ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไห้มต่อไป

จากการสอบถาม นางคณนภัส ภมร เจ้าของบ้านต้นเพลิง ได้เล่านาทีชีวิตทั้งน้ำตาว่า ต้นเพลิงเกิดจากด้านล่างแต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ขณะเกิดเหตุทุกคนในบ้านกำลังหลับสนิท และมีแม่ของตนที่นนอนอยู่กับลูกชาย4ขวบของตนได้ตะโกนเรียกชื่อตนว่าเกิดอะไรขึ้น   สามีตนคิดว่าแม่อยู่ข้างล่างจึงเปิดประตูจะวิ่งลงบันไดไปแต่ไฟลุกขึ้นมาแรงมากสามีตนจึงรีบไปกระแทกประตูบ้านชั้นบนที่เป็นเหล็กดัดเปิดออกมาด้านนอกและสามีตนได้อุ้มลูกชาย4ขวบไต่หนีไฟลงมาด้านล่างก่อน ส่วนตนก็ไต่ตามมาแต่มองกลับขึ้นไปเห็นไฟกำลังลุกตามมาจนจะถึงแม่ที่อยู่ด้านบนตนจึงตัดสินใจรีบกระโดลงมาจนบาดเจ็บอย่างที่เห็น เพื่อให้แม่ตนได้รีบไต่ตามลงมาแต่ก็บาดเจ็บเล็กน้อยปลอดภัย

 

นางคณนภัส ยังกล่าวต่ออีกว่าตอนนี้ครอบครัวตนไม่เหลืออะไรเลย เพราะค้าขายใช้ไปวันต่อวันเงินเก็บก็ไม่มีที่ก็ถูกไฟไห้มไปหมดแล้ว ขณะนี้แม้แต่ข้าวจะกินยังไม่มีเงินจะซื้อ เสื้อผ้าก็ไม่มีจะใส่ ดีที่เพื่อนบ้าน และคณะสงฆ์อำเภอนครชัยศรีพร้อมด้วยเทศบาลตำบลขุนแก้ว นำสิ่งของมาช่วยเหลือ  นางคณนภัส กล่าวทั้งน้ำตา