ศาลเพ่งยกฟ้อง ดร.เซปิง เพิ่มอีก2คดี

ศาลเพ่งยกฟ้อง ดร.เซปิง เพิ่มอีก2คดี
วันที่ 29 พ.ย.63 ดร.เซปิง ไชยศาส์น ประธานโครงการศัลยกรรมความงามเฟซออฟได้เปิดเผยว่าจากกรณีที่นางอารมณ์ สดมณีอายุ 55 ปี และนางสุภาวดี เหลืองทอง อายุ 52 ปีได้ออกรายการโหนกระแสร่วมกับพิธีกรหนุ่ม กรรชัย ทนายความและพวกอีก 9 คน โดยใช้ชื่อว่า “ศัลยกรรม FACE/OFF เปลี่ยนหน้าจากคนกลายเป็นผี”ทั้งที่ไม่ได้กลายเป็นหน้าผีตามที่ทางรายการโหนกระแสนำเสนอแต่อย่างใด และยังได้นำเรื่องเดียวกันนี้มาฟ้องเป็นคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายกับ ดร.เซปิง ทั้งที่นางอารมณ์ และนางสุภาวดี ยังเป็นหนี้ค้างชำระทางโครงการเฟซออฟอยู่ นางสุภาวดี ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ดร.เซปิง กับพวกเป็นจำเลยที่ 1 – 4 ต่อศาลแพ่งเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายทุนทรัพย์จำนวน 5,202,000 บาท ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2559 และนางอารมณ์ ก็เช่นเดียวกันเป็นโจทก์ฟ้อง ดร.เซปิง กับพวกเป็นจำเลยที่ 1 – 4 เรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายทุนทรัพย์ จำนวน 11,025,000 บาทเช่นเดี่ยวกัน
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 พ.ย.63 ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ ผบ.3657/2562 ของนางสุภาวดี ที่ฟ้อง ดร.เซปิง ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่นำสืบแล้ว นางสุภาวดี แจ้งว่าผลการผ่าตัดปกติเรียบร้อย ไม่มีอาการแทรกซ้อน และใช้ชีวิตอย่างปกติเช่นบุคคลทั่วไป แต่นางสุภาวดี ไม่ยอมให้ ดร.เซปิง สัมภาษณ์และถ่ายภาพหลังผ่าตัด ไม่ยอมผ่อนชำระหนี้แก่โครงการเฟซออฟ ต่อมาวันที่ 19 มีนาคม 2562 นางสุภาวดี ออกรายการโหนกระแส กล่าวอ้างว่า ทำศัลยกรรมผ่านโครงการของ ดร.เซปิง แล้วหน้าเบี้ยว เมื่อนำภาพถ่ายของนางสุภาวดี ก่อนและหลังผ่าตัดเปรียบเทียบกัน ใบหน้าของนางสุภาวดี
หลังทำศัลยกรรมดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก การผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าของนางสุภาวดี ที่นำสารซิลิโคนเหลวออกจากใบหน้า จึงเป็นการผ่าตัดรักษาโรคที่ยากกว่าการรักษากรณีปกติทั่วไป การศัลยกรรมนางสุภาวดีมีสภาพน่าพอใจดูดีกว่าก่อนทำ ประสบผลสำเร็จ การผ่าตัดนั้นนางสุภาวดีไม่ได้ถูกข่มขืนใจให้มาทำหน้ากับโครงการฯพฤติการณ์จากทางนำสืบของนางสุภาวดีดังกล่าว ยังฟังไม่ได้ว่านางสุภาวดีทำการผ่าตัดศัลยกรรม โดยถูกหลอกลวงตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด พยานหลักฐานของนางสุภาวดี ยังไม่มีน้ำหนักรับฟังได้ว่า นางสุภาวดี ถูกบังคับหรือหลอกลวงให้ผ่าตัดศัลยกรรม แต่ฟังได้ว่าประสงค์จะทำผ่าตัดศัลยกรรมเอง ดร.เซปิง ไม่ได้โฆษณาเกินจริง โดยได้อธิบายรายละเอียดต่างๆ การดูแลรักษาหลังผ่าตัดและผลลัพธ์หลังการผ่าตัด นางสุภาวดี เข้าใจและยอมรับจึงยืนยันจะผ่าตัด พยานหลักฐานของนางสุภาวดี ไม่เพียงพอ นางสุภาวดี นำสืบไม่เหมาะสม อาการต่างๆที่อ้างมาไม่มีหลักฐานมาแสดงต่อศาล
การที่โครงการเฟซออฟ ของ ดร.เซปิง โฆษณาว่าการผ่าตัดไร้รอยแผลเป็น ไม่เจ็บ ไม่บวม ไม่ช้ำ ทางแพทยสภาออกประกาศ แพทยสภาที่ 50/2549 ระบุคำที่ห้ามใช้โฆษณา 15 คำ ก็ไม่มีคำว่า “ ไร้รอยแผล ” อยู่ในประกาศและใช้บังคับกับแพทย์เท่านั้น เมื่อดร.เซปิง ไม่ใช่แพทย์ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดนางสุภาวดี พยานหลักฐานที่นางสุภาวดี นำมาสืบนั้นมีน้ำหนักน้อยกว่าพยานหลักฐานของ ดร.เซปิง ข้อเท็จจริง จึงยังฟังไม่ได้ว่า ดร.เซปิง และจำเลยทั้ง 3 กระทำละเมิดต่อนางสุภาวดี จึงไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
ดร.เซปิง กล่าวต่ออีกว่า เช่นเดียวกับนางอารมณ์ ที่เป็นโจทก์ฟ้อง ดร.เซปิง กับพวกเป็นจำเลยที่ 1 – 4 ในคดีหมายเลขดำที่ ผบ.1174 / 2563 เรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายทุนทรัพย์ จำนวน 11,025,000 บาท เมื่อวันที่ 26 พ.ย.63 ที่ผ่านมาศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่นำสืบแล้ว ดร.เซปิง ไม่เคยโฆษณาอันเป็นเท็จ นางอารมณ์ได้รับประโยชน์จากการผ่าตัดตามประสงค์แล้ว จึงไม่มีสิทธิ์เรียกค่าเสียหาย ค่าเสียหายอื่นๆนางอารมณ์กำหนดขึ้นเอง โดยไม่มีค่าเสียหายเกิดขึ้นจริง โจทก์เรียกค่าเสียหายเพื่อกลั่นแกล้ง ดร.เซปิง และพวก หลังผ่าตัดใบหน้านางอารมณ์เปลี่ยนแปลงดีขึ้นกว่าเดิมมากดูอ่อนเยาว์ นางอารมณ์ร่วมกับสมาชิกกลุ่มไลน์ นางพรรณภัค ไว ร่วมกันด่าใส่ความ และนางอารมณ์ยังให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแสใส่ความดร.เซปิง จึงแจ้งความนางอารมณ์ ปัจจุบันนางอารมณ์ ยังเป็นหนี้โครงการฯ อยู่ ตามภาพถ่ายทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ซึ่งใบหน้านางอารมณ์ จนถึงลำคอด้านหน้าและด้านข้าง ไม่ปรากฏแผลเป็นใด ๆ บนใบหน้าของนางอารมณ์ ส่วนอาการชาและอาการปวดจี๊ดๆ ที่นางอารมณ์อ้างว่าเกิดขึ้นจากหลังผ่าตัด นางอารมณ์ก็ไม่เคยแจ้งแพทย์ เพื่อให้ตรวจรักษา แสดงให้เห็นว่านางอารมณ์ไม่ได้มีอาการชาหรือปวด ตามที่อ้างมาในฟ้องแต่อย่างใดข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่านางอารมณ์ทำสัญญากับ ดร.เซปิง เพราะเชื่อคำโฆษณาว่า จะไม่มีแผลเป็นหลังผ่าตัด ดร.เซปิง จึงไม่ได้ผิดสัญญา และการกระทำของ ดร.เซปิง จึงไม่ใช่การกระทำละเมิดต่อนางอารมณ์ มูลเหตุที่นางอารมณ์ฟ้องจำเลยทั้ง 4 เป็นคดีนี้ เนื่องจากนางอารมณ์โกรธที่ ดร.เซปิง แจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทแก่นางอารมณ์ ยิ่งแสดงให้เห็นว่านางอารมณ์ไม่มีความเสียหายพิพากษายกฟ้อง
ดร.เซปิง ยังได้กล่าวต่ออีกว่าจากกรณีนางสุภาวดี และนางอารมณ์ กับพวกรวมอีก 9 คน ได้ไปออกรายการโหนกระแสซึ่งมี หนุ่ม กรรชัย เป็นพิธีกรรายการ ในหัวข้อชื่อว่า “ศัลยกรรม FACE/OFF เปลี่ยนหน้าจากคนกลายเป็นผี” บัดนี้ข้อเท็จจริงได้รับการพิสูจน์ในศาลแล้วว่า สิ่งที่ไปพูดออกรายการโหนกระแสนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ความจริงกลับปรากฏว่าใบหน้าของบุคคลทั้งสอง ได้รับการผ่าตัดศัลยกรรมดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งการไปออกรายการทางสื่อสาธารณะย่อมทำให้สังคมและประชาชนเข้าใจผิดตามที่ไปออกข่าว ออกรายการ และเป็นการพิพากษา ดร.เซปิง ผู้ตกเป็นข่าวโดยไม่ผ่านกระบวนการพิสูจน์ตามขึ้นตอนของกฎหมาย ย่อมทำให้ผู้ตกเป็นข่าวได้รับความเสียหายจนไม่อาจประเมินค่าได้ กว่าจะพิสูจน์ให้สังคมรับรู้ความจริงได้ก็ต้องใช้เวลานานถึง 2 ปี และบุคคลที่ไปออกรายการคือบุคคลที่ฟ้อง ดร.เซปิง ซึ่ง ดร.เซปิง ก็ชนะคดี “หลังจากนี้ ดร.เซปิง จะขอใช้สิทธิ์ทางกฎหมาย เพื่อขอคืนความยุติธรรมให้แก่ตนเองและครอบครัวที่ถูกทำลายชื่อเสียงต่อไป และดำเนินคดีกลับ ในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทและเบิกความเท็จ รวมถึงเงินที่เป็นหนี้ค้างชำระอยู่ก็จะดำเนินคดีด้วย และจะขอนำเสนอความจริงให้ประชาชนได้เข้าใจ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….