ปทุมธานี. แก๊งค์รถซิ่งเปิดเฟสบุ๊คเรียกระดมพล ท้าทาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

แก๊งค์รถซิ่งเปิดเฟสบุ๊คเรียกระดมพล ท้าทาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

เมื่อคืนวันที่ 22 มิถุนายน 2563 เวลา 00.30 น. พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผช.ผบ.ตร., พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี แถลงข่าวจับกุมกลุ่มวัยรุ่นนัดรวมตัวผ่านเฟสบุ๊ค ชื่อ กลุ่มรถซิ่งรามอินทรา เย้ย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังเริ่มมีการผ่อนปรนมาตรการ จับกุมวัยรุ่นทั้่งหญิงและชายรวม 146 คน รถแต่งซิ่ง 97 คัน ในพื้นที่ลำลูกกา คูคต จ.ปทุมธานี

สืบเนื่องจากฝ่ายสืบสวนชุดเฉพาะกิจปราบปราบเด็กแว๊น ของ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ ฯ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวแอดมินเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า “กลุ่มรถซิ่งรามอินทรา” จนพบความเคลื่อนไหวว่าจะมีการนัดรวมตัวกันในพื้นที่ อ.คูคต จ.ปทุมธานี จะได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธธานี ร่วมวางแผนจับกุม ต่อมาวันที่ 21 มิ.ย.2563 เวลาประมาณ 20.30 น.

แอดมินได้มีการเชิญชวนให้เพื่อนในกลุ่มมารวมตัวกันบริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งย่านลำลูกกา จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ไกลเขต บุรีรักษ์ รอง ผบก.ฯ, พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.สภ.คูคต, พ.ต.ท.วิชาญ จันทศรี รอง ผกก.ป.ฯ, พ.ต.ท.สัมพันธ์ ทิมเจริญ รอง ผกก.สส.ฯ ,พ.ต.ท.สิทธิชัย สิทธิประภา สว.ฯ/หัวหน้างานจราจร สนธิกำลังกับ สภ.ลำลูกกา, สน.นิมิตรใหม่ พร้อมกำลังตำรวจ และสายลับ รวมกว่า 40 นาย เข้าตรวจสอบพบกลุ่มวัยรุ่นจับกลุ่มชุมนุมทำกิจกรรม รวมกลุ่มรถแต่งภายในปั๊มบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ESSO ถ.หทัยราษฎร์ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี

เพื่อมอบของที่ระลึกแก่สมาชิกภายในกลุ่ม ซึ่งวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวได้นัดหมายกันผ่านเฟสบุ๊คชื่อ “กลุ่มรถซิ่งรามอินทรา” อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม โดยออกตามความในมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับผลการจับกุมผู้ชุมนุมจำนวน 146 คน รถทั้งสิ้น 97 คัน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ดำเนินการจัดทำประวัติบุคคลทั้งหมดไว้ และนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับว่าต้องเข้มงวดกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายในช่วงที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยเฉพาะกราจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ซึ่งการทำกิจกรรมในลักษณะนี้มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคซึ่งเรื่องนี้ ท่านนายกรัฐตรีได้มีการออกข้อกำหนดเป็นการทั่วไปและข้อปฏิบัติไว้แล้ว และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือแล้ว ก็ยังมีการทำกิจกรรมซึ่งเป็นการฝ่าฝืนอีก ก็คงต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ส่วนจะมีความผิดตามคำสั่ง คสช. ในเรื่องการสนับสนุนหรือรวมกลุ่มอันนำไปสู่การแข่งรถในทางนั้นจะต้องทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป