สมุทรสาคร รวบลูกศิษย์วัดหลอกข่มขืนเด็กวัย 12 ขวบ สารภาพอ้างอารมณ์ชั่ววูบ

รวบลูกศิษย์วัดหลอกข่มขืนเด็กวัย 12 ขวบ สารภาพอ้างอารมณ์ชั่ววูบ
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันที่ 06 พฤษภาคม 2563 ร.ต.อ.จะเด็ด จันทร์พลงาม รองสารวัตรสอบสวน สภ.โคกขาม จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งว่ามีคนล่อลวงเด็กหญิงเข้าไปก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราภายในบริเวณวัดแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ที่ 5 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบบริเวณที่พักของลูกศิษย์วัด พบตัวผู้ก่อเหตุตามคำบอกกล่าวของเด็กหญิง คือ นายสมชาย หรือหน่อง บัวพันธ์ อายุ 36 ปี จึงนำตัวมาสอบปากคำ โดยมี พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ รองผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร พ.ต.อ.สิทธิพงศ์ สังข์แสง ผกก.สภ.โคกขาม และนางสาวกฤษฎี ปิ่นนิล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร ได้มาร่วมสอบปากคำผู้ต้องหา พ่อเด็ก แม่เด็ก (แยกทางกับพ่อเด็ก) และผู้เกี่ยวข้อง ส่วนตัวเด็กหญิงฝ้าย นามสมมุติ อายุ 12 ปี ผู้เสียหายที่ถูกข่มขืนกระทำชำเรานั้น จะต้องมีการตั้งทีมสหวิชาชีพมาดำเนินการสอบปากคำ เนื่องจากเป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 15 ปี


เบื้องต้นจากการสอบถามนายโฆษิต สินธุ อายุ 30 ปี อาสาสมัครตำรวจบ้านซึ่งช่วยนำตัวเด็กเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เล่าว่า ขณะที่ตนเองกำลังทำงานช่วยวัดที่เกิดเหตุนั้น เด็กหญิงฝ้ายก็วิ่งมาขอความช่วยเหลือโดยบอกว่า ถูกนายหน่องข่มขืน ซึ่งตอนแรกตนก็ยังไม่แน่ใจจึงลองถามเด็กอีกครั้ง แต่เด็กก็ยืนยันคำเดิมและยังเล่าให้ฟังด้วยว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยถูกนายหน่องทำร้ายร่างกายตบตีมาแล้วหลายหน แต่ไม่กล้าฟ้องผู้ใหญ่ พอเด็กไปบอกพ่อ ทางพ่อของเด็กก็บอกไม่ให้เอาเรื่องคนก่อเหตุ เพราะกลัวจะถูกนายหน่องลูกศิษย์วัดจะกลับมาทำร้ายร่างกาย ส่วนแม่ที่เลิกลากับพ่อไปแล้วก็อยู่ไกลกัน ตนจึงทนไม่ได้ก็เลยพาเด็กเข้าแจ้งความกับตำรวจ และให้ตำรวจสอบปากคำพ่อเด็กด้วยว่าทำไมถึงไม่ยอมช่วยลูกด้วยการพามาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับคนผิดขณะที่ทางด้านเด็กหญิงฝ้าย นามสมมติ อายุ 12 ปี ผู้เสียหายบอกว่า หนูจะมาอยู่ที่วัดในช่วงที่พ่อออกไปทำงาน โดยจะมาช่วยเก็บทำความสะอาดบริเวณโดยรอบวัด ซึ่งก็จะได้เงินไปกินขนมบ้างเล็กๆ น้อยๆ จากหลวงตา และผู้ใจบุญ จึงทำให้รู้จักกับผู้ก่อเหตุที่เป็นเด็กวัดคอยเก็บกวาดทำความสะอาดกุฎิหลวงตา โดยก่อนเกิดเหตุนั้น หนูได้ขี่จักรยานเล่น แล้วนายหน่องก็เรียกเข้าไปหาโดยบอกว่าให้ไปซื้อน้ำแข็งให้พระหน่อยซิ หนูก็บอกแป๊ปหนึ่งพอไม่นานก็ไปที่ห้องเพื่อจะเอาเงินจากนายหน่องไปซื้อน้ำแข็ง แต่เมื่อไปถึงหน้าห้องนายหน่องก็อุ้มหนูเข้าไปแล้วก็จับหนูถอดกางเกง พอหนูไม่ยอมเขาก็กดหนู จนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง แล้วก็ปล่อยหนูออกมา หนูจึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากคนที่อยู่ในวัด ทางด้านของนายสมชาย บัวพันธ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเคยถูกจับกุมตัวมาแล้วครั้งหนึ่งในข้อหาเสพกัญชา แล้วก็มาครั้งนี้ตนยอมรับว่าสำเร็จความใคร่กับเด็กจริง แต่ทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งตนสำนึกผิดแล้ว


ส่วนนางสาวกฤษฎี ปิ่นนิล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร บอกว่า หลังจากนี้จะต้องพาเด็กไปตรวจร่างกาย แล้วก็ให้ทางศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรสาครรับเด็กไปอยู่ในความดูแลก่อน เนื่องจากขณะนี้เด็กยังต้องได้รับการเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจ ส่วนการสอบปากคำเด็กนั้น ต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ไม่สามารถให้รายละเอียดอื่นใดได้
นอกจากนี้ในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดย พ.ต.อ.สิทธิพงศ์ สังข์แสง ผกก.สภ.โคกขาม ก็กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นเด็กให้การมาตลอดว่าโดนทำร้ายร่างกายมาอย่างน้อย 2 – 3ปี โดยถูกลงไม้ลงมือตบตีส่วนความรุนแรงจะมากน้อยแค่ไหนนั้น อยู่ระหว่างการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ครั้งนี้มีหลักฐานยืนยันว่า เด็กถูกกระทำชำเราแน่นอน และจากการที่นายอำเภอรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบถามพ่อของเด็กก็ทราบว่า ผู้ต้องหานั้นเคยเป็นเพื่อนสนิทของพ่อเด็กเมื่อตอนวัยรุ่น แต่มาระยะหลังนี้ไม่ค่อยได้พบเจอกันเพราะพ่อเด็กไปทำงานแล้ว ดังนั้นจึงจะต้องทำการสืบสวนสอบสวนให้ครบกระบวนการว่า เด็กถูกกระทำฯในลักษณะนี้มาตั้งแต่เมื่อไรและกี่ครั้งแล้ว เพราะจะมีผลต่อการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา อีกทั้งยังจะได้ส่งเสื้อผ้าของเด็กไปให้เจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจหาคราบอสุจิ หรือหลักฐานอื่นๆ ที่ปรากฎบนกางเกงเด็กด้วย ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายสมชายฯ ผู้ต้องหาไว้ก่อนว่า ข่มขืนกระทำชำเราและอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย จากนั้นก็ได้ส่งตัวให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฏหมายต่อไป และจะไม่ให้มีการประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากถือเป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีผลต่อรูปคดี
ชูชาต แดพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร