นครปฐม สสอ.สามพราน รพ.สามพรานและสถาบันพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาจัดอบรมป้องกันโรคCOVID-19

สสอ.สามพราน รพ.สามพรานและสถาบันพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาจัดอบรมป้องกันโรคCOVID-19

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 ที่ สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

สาธารณสุขอำเภอสามพราน โรงพยาบาลสามพรานและสถาบันพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา จัดอบรมให้ความรู้ เรื่องการป้องกันโรคCOVID-19 โดยมี นายพัชรวัฒน์  พัชรเกียรติกนก ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอสามพราน  นางพัชรี  เกษรบุญนาค  หัวหน้ากลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม นายอดิเรก ศรีประเสริฐ  นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ หัวหน้างานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอสามพราน และทีมรพ.สต.บ้านท่าพูด เป็นวิทยากรให้ความรู้  ซึ่งมี นายศัจธร วัฒนะมงคล ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา นำอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และแม่บ้าน ที่จะต้องต้อนรับคณะฝึกอบรม ที่จะมาใช้สถานที่สถาบันแห่งนี้  โดยคณะวิทยากร ได้ให้ความรู้เรื่องการใส่หน้ากากอนามัย การทิ้งที่ถูกวิธี การทำความสะอาด มือตรวจวัดไข้ด้วยอุปกรณืทางการแพทย์ เช็ดทำความสะอาดห้องประชุมด้วยแอลกอฮอล์  คัดกรองผู้ป่วยหากพบมีไข้ให้รีบแยกออกจากห้องประชุมทันที่  ส่วนด้านการบริโภคอาหาร ควรกินร้อน ใช้ช้อนกลาง

และโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตราย ทั้งนี้ ได้ประกาศให้บังคับใช้ตั้งแต่วันถัดไปจากวันประกาศในราชกิจจานุกเบกษาเป็นต้นไป สำหรับ ความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีสาระสำคัญ ระบุว่า

มาตรา 31 ประชาชน ผู้รับผิดชอบในสถานพยาบาล หรือผู้ควบคุมสถานประกอบการ หรือสถานที่อื่นใด เช่น โรงแรม ต้องแจ้งข้อมูลเมื่อพบมีผู้ต้องสงสัยหรือผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่ออันตราย ฝ่าฝืนมีโทษ ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท

มาตรา 34 (1) ผู้ที่เป็นโรคติดต่ออันตราย หรือเข้าข่ายต้องสงสัย  หรือมารับการตรวจรักษา ต้องเข้าสู่การแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต ในสถานที่ที่กำหนด  จนกว่าจะพ้นระยะติดต่อ  ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท

มาตรา 35 เมื่อมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนให้สั่งปิดตลาด สถานที่ชุมชน สถานศึกษา หรือสถานที่อื่นใดเป็นการชั่วคราวได้ ให้ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นโรคโควิด-19 หยุดทำงานชั่วคราวได้ และสั่งห้ามผู้ต้องสงสัยว่าเป็นโรค เข้าสถานที่ชุมนุมชน เว้นแต่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนมีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 39 (5) ห้ามเจ้าของ หรือ ผู้ควบคุมยานพาหนะ นำผู้เดินทางที่ไม่ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเข้าประเทศ  ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท

มาตรา 40 (2)  พาหนะที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตควบคุมโรคจากต่างประเทศ ต้องจอดอยู่ในสถานที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น หากฝ่าฝืนมีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท