พุทธศาสนิกชนจำนวนมากเวียนเทียนวันมาฆบูชา
เมื่อเวลา 19.00น.วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ที่บริเวณรอบพระอุโบสถวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
พุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมพิธีเวียนเทียนเทียนวันมาฆบูชา โดยมีพระเทพศาสนาภิบาล รองเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง เป็นองค์ประธานนำคณะพระสงฆ์วัดไร่ขิง และพระสงฆ์ที่เข้าอบรมบาลีก่อนสอบ จำนวน 700 รูป และพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ร่วมเวียนเทียนวันมาฆบูชา วันมาฆบูชา เป็นวันสำคัญของชาวพุทธเถรวาท และวันหยุดราชการในประเทศไทย “มาฆบูชา” ย่อมาจาก “มาฆปูรณมีบูชา” หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะตามปฏิทินอินเดีย หรือเดือน 3 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย (ตกช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม) ถ้าปีใดมีเดือนอธิกมาส คือมีเดือน 8 สองหน (ปีอธิกมาส) ก็เลื่อนไปทำในวันเพ็ญเดือน 3 หลัง (วันเพ็ญเดือน 3)
วันมาฆบูชาได้รับการยกย่องเป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธ เนื่องจากเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน คือ พระโคตมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ท่ามกลางที่ประชุมมหาสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ในพระพุทธศาสนา คัมภีร์ปปัญจสูทนีระบุว่าครั้งนั้นมีเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกัน 4 ประการ คือ พระภิกษุ 1,250 รูป ได้มาประชุมพร้อมกันยังวัดเวฬุวันโดยมิได้นัดหมาย, พระภิกษุทั้งหมดนั้นเป็น “เอหิภิกขุอุปสัมปทา” หรือผู้ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง, พระภิกษุทั้งหมดนั้นล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา 6, และวันดังกล่าวตรงกับวันเพ็ญเดือน 3 ดังนั้น จึงเรียกวันนี้อีกอย่างหนึ่งว่า “วันจาตุรงคสันนิบาต” หรือ วันที่มีการประชุมพร้อมด้วยองค์ 4
การเวียนเทียน คือการเดินเวียนรอบปูชนียสถานสำคัญ เช่น พระอุโบสถ วิหาร หรือพระพุทธรูป เพื่อระลึกถึงพระรัตนตรัย อันได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จึงได้กำหนดให้เดินเวียน 3 รอบ เพื่อให้รู้สังสารวัฏเราว่ามีการเวียนว่ายตายเกิดเหมือนวงล้อหมุนไปแล้วกลับมาจุดเดิม ในการเวียนเทียนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาจะต้องเดินวนขวาทักษิณาวรรต หรือเวียนประทักษิณาวัตร คือเวียนขวา 3 รอบ ซึ่งเป็นไปตามคติความเชื่อแต่โบราณว่า ขวาเป็นมงคล ดังนั้นสิ่งที่เราเคารพจะต้องอยู่ทางด้านขวา อันเป็นเครื่องหมายถึงการแสดงออกซึ่งการเคารพบูชาต่อสิ่งนั้น ๆ อย่างสูงสุด แต่หากเป็นการเวียนเทียนในงานอวมงคล เช่น งานศพ จะเดินเวียนทางซ้าย เรียกว่า อุตราวรรต
