พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐินให้ กรมการพัฒนาชุมชนถวาย ณ วัดเสนหา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน ประจำปี พ.ศ. 2562 ให้กรมการพัฒนาชุมชนถวาย ณ วัดเสนหา อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562
เวลา 10.00 น.นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน  เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานกรมการพัฒนาชุมชน ประจำปี 2562 ณ พระอารามหลวง วัดเสนหา ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม คณะผู้บริหาร ข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชนส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สื่อมวลชน และพี่น้องประชาชนผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมพิธี

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เผยว่า “ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมการพัฒนาชุมชนนำผ้าพระกฐินพระราชทานกรมการพัฒนาชุมชน ประจำปี 2562 ถวาย ณ พระอารามหลวง วัดเสนหา ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม โดยมีพิธีสมโภชองค์พระกฐินพระราชทานไป เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ สำหรับการถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้ มียอดเงินโดยเสด็จพระราชกุศล จำนวน 1,802,815 บาท โดยแบ่งถวายพระภิกษุสามเณร จำนวน 51,500 บาท บำรุงพระอาราม จำนวน 1,525,069 บาท บำรุงโรงเรียน จำนวน 65,000 บาท ค่าใช้จ่ายทั่วไป จำนวน 161,246 บาท ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชน ขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ที่ได้ร่วมทำบุญมหากุศลด้วยกันในครั้งนี้”

สำหรับประวัติและความเป็นมาวัดเสนหา ตั้งอยู่เลขที่ 588 ถนนรถไฟตะวันตก หมู่ที่ 7 ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2452 โดยมีนายเพิ่มเสนหา บุญนาค บุตรพระยาศรีสรราชภักดี (วัน บุญนาค) พ่อค้าผู้มีฐานะมั่งคั่ง และมีจิตศรัทธาถวายที่ดินแปลงหนึ่ง ให้สร้างเป็นวัด เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2452 โดยมีพระเถระผู้ใหญ่ 2 รูป คือ พระเดชพระคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) วัดบรมนิวาส จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กับพระพุทธวิริยากร (จิตร ฉนฺโน) วัดสัตตนารถปริวัตร จังหวัดราชบุรี เป็นผู้รับที่ดิน และได้จัดส่งพระภิกษุสามเณรจากวัดบรมนิวาสบ้าง วัดสัตตนารถปริวัตรบ้างมาอยู่จำพรรษา และได้ตั้งให้พระครูสังวรวินัย (อาจ ชุตินฺธโร) เป็นเจ้าสำนักปกครอง อบรมพระภิกษุสามเณรที่อยู่จำพรรษาตั้งแต่เริ่มสร้างวัด และได้ใช้ชื่อของผู้บริจาคเป็นชื่อวัดตั้งแต่ต้นมา

สถานีข่าว พช. CNS รายงาน