สุพรรณบุรี คุมตัวเบนซ์ท่าทราย พ่อค้ายาบ้าข้ามประเทศทำแผนหลังถูกจับยาบ้าร่วมแสนเม็ด

สุพรรณบุรี คุมตัวเบนซ์ท่าทราย พ่อค้ายาบ้าข้ามประเทศทำแผนหลังถูกจับยาบ้าร่วมแสนเม็ด
ที่ จ.สุพรรณบุรี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ผบชภ.7 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.7 โดย พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพชย์เดช รองผบช.7พล..ต.สงวน โรงสะอาด ผบก.สส.ภ7,พ.ต.อ.อริศวิส กมลรัตน์ พ.ต.อ. ชมชวิณ ปุระธนานนท์ พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ รอง ผบก.สส.ภ7 พ.ต.อ.มาโนชญ์ จิตรภักดี รอง ผบก ภ.จว.สุพรณบุรี พต.อ.ศักยฐิปฏ์ ศิรสกุล ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ7 พ.ต.อ.สุภาพ วัยนิพิฐพงษ์ ผกก.กก.สส.1 พ.ต.อ.ดิเรก ชาวสวน ผกก.สภ.ศรีประจันต์ พ.ต.ท.เชาวลิตพงศ์ เฟื่องประยูร รอง ผกก.ป.พ.ต.ท.วิโรจน์ ภาคภูมิ รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.อดิเรก ขุนจันดี สวป.สภ.ศรีประจันต์ นำกำลังจับกุมนายอดิศักดิ์ ศรีสะอาด หรือฉายาเบนซ์ท่าทราย อายุ 31 ปีอยู่บ้านเลขที่ 53/94 หมู่ 6 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี อดีตพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ของภาคกลางและภาคตะวันตก เคยถูกจับเมื่อเดือนมีนาคม 2558 คดีค้ายาเสพติดเครือข่ายยาบ้าข้ามชาติประเทศเพื่อนบ้านเจ้าหน้าที่ต้องประสานหลายองค์กรทั้งกดดันและขอความร่วมมือกว่าจะได้ตัวมาดำเนินจนเป็นข่าวดังเนื่องจากผู้ต้องหาได้ถืออาวุธปืนสงครามโพสต์ในโลกโซเชียลท้าทายขู่ฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สภ.ศรีประจันต์ หลังถูกจับศาลตัดสินจำคุก 5 ปีและเพิ่งพ้นโทษเมื่อเดือน พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมาแล้วมีพฤติกรรมกลับมาค้ายาเสพติดอีก


ชุดสืบสวนภาค 7 ได้ลงพื้นที่สืบสวนทราบว่าเบนซ์ท่าทราย ได้หวลกลับเข้าสู่วงการยาเสพติดจึงสืบสวนจนได้เบาะแสว่าเบนซ์ท่าทราย ได้สั่งยาบ้าล็อตใหญ่เข้ามาพักในพื้นที่ อ.ศรีประจันต์ จึงนำกำลังติดตามและสามารถจับกุมตัวนายอดิศักดิ์ หรือเบนซ์ท่าทราย ไว้ได้ในพื้นที่ ต.ดอนปรู ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมมาสอบสวนนายเบนซ์ให้การรับสารภาพว่าสั่งยาบ้ามาจากกะเหรี่ยง จำนวน 80,000 เม็ดโดยซ่อนไว้ในถังน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์กระบะซึ่งเป็นถังหลอก แล้วมีคนขับรถนำยาบ้ามาส่งจากนั้นได้ขับรถเข้าไปที่บ้านร้างในป่าละเมาะกลางทุ่งนาเพื่อถอดถังน้ำมันนำยาบ้าออกก่อนจะย้ายไปไว้ที่เล้าไก่ หลังบ้านเลขที่ 159 หมู่ 8 ต.ดอนปรู อ.ศรีประจันต์ จำนวน 10 ถุง 40 มัด หรือประมาณ80,000 เม็ด แต่ละมัดห่อหุ้มด้วยกระดาษสาและห่อด้วยพลาสติกใสแพ็คสูญญากาศใส่ไว้ในกระสอบปุ๋ยสีฟ้ามีคราบน้ำมันซื้อเพลิงติดอยู่


สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบสวนภาค 7 สืบทราบว่านายอดิศักดิ์ ศรีสะอาด อายุ 31 ปีหรือฉายาเบนซ์ท่าทรายซึ่งเคยถูกจับคดียาเสพติดและเพิ่งพ้นโทษเมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ยังมีพฤติการณ์เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี โดยจะสั่งซื้อยาเสพติดมาจากพ่อค้ายาซึ่งอยู่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้าน อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี แล้วนำมาซุกซ่อนไว้ในพื้นที่ หมู่ 8 ต.ดอนปรู อ.ศรีประจันต์ เพื่อรอส่งต่อให้กับลูกค้าประจำที่เคยส่งยาเสพติดให้กันมาก่อนเจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบนายอดิศักดิ์ หรือเบนซ์ท่าทราย กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในบ้านร้างกลางป่าละเมาะเจ้าหน้าที่จึงวางกำลังดักซุ่มรอกระทั่ง เบนซ์ท่าทราย ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากซอยรกทางเข้าบ้านร้างโดยมีถุงปุ๋ยสีฟ้าวางพาดอยู่บริเวณที่พักเท้าเจ้าหน้าที่มั่นใจว่าในถุงปุ๋ยต้องเป็นยาเสพติดจึงสะกดรอยตามกระทั่งผู้ต้องหาเลี้ยวรถเข้าไปหลังบ้านเลขที่ 159 หมู่ 8 ต.ดอนปรู แล้วยกถุงปุ๋ยเข้าไปไว้ในเล้าไก่เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมแต่ผู้ต้องหาไหวตัวขับรถหลบหนีเจ้าหน้าที่จึงติดตามอย่างกระชั้นชิดและสามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลางยาบ้าในถุงปุ๋ยจำนวน 80,000 เม็ด จากนั้นผู้ต้องหาได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปยังบ้านร้างซึ่งเป็นจุดรับยาเสพติดเมื่อถึงบริเวณปากทางเข้าซอยบ้านร้างพบชายทราบชื่อต่อมาคือนายธนวัฒน์ สุภาไทย หรืออาร์ท อายุ 32 ปีนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ และนายเอื้อน ทุเรียนหอม อายุ 45 ปียืนอยู่ใกล้กันเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวตรวจค้นในตัวไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่พบว่าเสื้อผ้าของทั้งสองคนมีคราบน้ำมันติดอยู่ จากการสอบถามทั้งสองคนเล่าว่ามาช่วยเพื่อนทำรถจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงพาทั้งสามคนไปยังบ้านร้างแล้วทำการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสามคนร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1ยาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย


เบนซ์ท่าทราย ให้การว่าบริเวณบ้านร้างดังกล่าวเป็นจุดที่นำยาบ้าออกจากที่ซ่อนในถังน้ำมันรถยนต์ ส่วนนายธนวัฒน์ และนายเอื้อน พร้อมพวกอีก 2 คนที่หลบหนีไปก่อนหน้านี้ได้มาช่วยถอดถังน้ำมันที่ซุกยาบ้าไว้หลังจากถอดถังเสร็จตนได้ให้นายธนวัฒน์ และนายเอื้อน กลับไปก่อนเหลือเพียงตนกับคนขับรถยนต์กระบะและผู้หญิงที่มากับรถกระบะที่นำยาบ้ามาส่งช่วยกันนำยาบ้าออกจากถังและตนเป็นคนนับยาบ้าด้วยตัวเองจนครบจำนวน 40 มัดส่วนที่ต้องหวลกลับมาค้าเสพติดอีกเนื่องจากตนไม่รู้จะทำมาหากินอะไรหลังพ้นโทษได้กลับมาอยู่กับภรรยาบ้านที่ อ.ศรีประจันต์ บางครั้งทะเลาะมีปากเสียงกับภรรยาเกิดความเครียดก็จะเสพยาบ้า ส่วนยาบ้าดังกล่าวตนสั่งซื้อมาจากนายโบ้ และนายสอ ซึ่งอยู่ที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้าน อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี ซึ่งรู้จักกันในเรือนจำเมื่อครั้งถูกจับอยู่ในเรือนจำ จำนวน 40 มัดราคามัดละ 400,000 บาทโดยรับผิดชอบค่าขนส่งคนละครึ่งกับนายสอ โดยนายสอ ได้จัดลูกน้องขับรถมาส่งให้ถึงที่ส่วนเงินค่ายาจะโอนจ่ายให้ภายหลัง


จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 7 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีประจันต์ โดย พ.ต.ท.วิโรจน์ ภาคภูมิ รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.อดิเรก ขุนจันดี สวป.พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ อส.กว่า 50 นายคุมตัวนายอดิศักดิ์ หรือเบนซ์ท่าทรายไปทำแผนชี้จุดรับและซ่อนยาเสพติด หลังจากเจ้าหน้าที่ทำแผนเสร็จ แม่และภรรยา ของเบนซ์ท่าทราย ได้เดินเข้ามาขออนุญาติเจ้าหน้าที่ตำรวจขอกอดลูกชายและสามีซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อนุญาตสำหรับการทำแผนครั้งนี้ได้รับความสนใจจากแฟนคลับของเบนซ์ที่ทราบข่าวว่าเบนซ์ถูกจับต่างพากันมายืนการทำแผนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องคอยคุ้มกันอย่างดีเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากเบนซ์ท่าทราย นั้นเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายสำคัญ
ภัทรพล พรมพัก/สุพรรณบุรี