นครปฐม สมเด็จพระสังฆราชประทานประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง พระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งที่ 2

สมเด็จพระสังฆราชประทานประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง พระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งที่ 2

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จเป็นประธานในพิธีประทานประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง พระราชทานวิสุงคามสีมา ครั้งที่ 2 ประจำปี 2562

วันที่ 17 กันยายน 2562 ที่อาคารพระเทพศาสนาภิบาล วัดไร่ขิงพระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จเป็นประธานในพิธีประทานประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง พระราชทานวิสุงคามสีมา ครั้งที่ 2 ประจำปี 2562 พร้อมกันนี้ได้เสด็จเข้ากราบนมัสการหลวงพ่อวัดไร่ขิงพระประธานในพระอุโบสถ  โดยมี พระเทพศาสนาภิบาล รองเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม พร้อมคณะสงฆวัดไร่ขิง ไวยาวัจกรวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ถวายสักการะ ก่อนเสด็จไปยัง อาคารพระเทพศาสนาภิบาล วัดไร่ขิงพระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธซศาสนาแห่งชาติ ข้าราชการ คณะสงฆ์ และประชาชน เฝ้ารับเสด็จฯ ซึ่งมี พระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่  เจ้าคณะภาค  และนายเทวัญ ลิปตภัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  นายชาญนะ  เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม  พ.ต.ท.พงศ์พร  พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธซศาสนาแห่งชาติ  ร่วมถวายสักการะ  และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ได้กล่าวถวายรายงาน  โดยพิธีประทานประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานวิสุงคามสีมาจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปีพุทธศักราช 2545 โดยได้พิจารณาเห็นว่า วัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาต้องเป็นวัดที่มีความมั่นคงถาวร มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎกระทรวง การสร้าง การตั้ง การรวม การย้าย และการยุบเลิกวัด การขอรับพระราชทานวิสุงคามสีมา และการยกวัดร้างขึ้นเป็นวัดมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา พ.ศ.2559

ดังนั้นวัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในครั้งนี้เป็นวัดที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ตามที่บัญญัติไว้ในกฎกระทรวง และสามารถกระทำสังฆกรรมได้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นวัดที่มีความสมบูรณ์ทั้งทางด้านพระธรรมวินัย และกฎหมายทุกประการ สำหรับการจัดพิธีประทานประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฯครั้งนี้ ประกอบด้วยวัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ในงวดที่ 1 ประจำปี 2562 จำนวน 212 วัด ในการนี้สมเด็จพระสังฆราช ทรงกล่าวสัมโมทนียกถา  เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าอาวาส และพุทธศาสนิกชนในการพัฒนาวัด อันเป็นการสืบต่อพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป