พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเทียนพรรษา ณ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเทียนพรรษา ณ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม เนื่องในวันเข้าพรรษา ประจำปี 2562

วันที่ 17 กรกฎาคม 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเทียนพรรษา ถวายแด่วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เนื่องในวันเข้าพรรษา ประจำปี 2562 โดยมีการแห่เทียนพรรษาพระราชทาน และเทียนพรรษาจากโรงเรียนต่างๆ รอบองค์พระปฐมเจดีย์ จากนั้น นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานอัญเชิญและจุดเทียนพรรษาพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทาน ซึ่งทรงพระราชอุทิศ

เพื่อจุดบูชาพระรัตนตรัยและพุทธเจดียสถาน ตามพระอารามหลวงที่ตั้งอยู่ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ในวาระของฤดูกาลเข้าพรรษาของพระพุทธศาสนา ซึ่งวัดพระปฐมเจดีย์ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ ชนิดราชวรมหาวิหาร มีพระพรหมเวที รักษาการเจ้าคณะภาค 15 เป็นเจ้าอาวาส และในปีนี้มีพระภิกษุสามเณรปฏิบัติธรรมจำพรรษาจำนวน 176 รูป หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้ถวายผ้าอาบน้ำฝน เครื่องบริขาร และจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร พร้อมมอบเกียรติบัตรแก่ผู้แทนโรงเรียนที่จัดเทียนพรรษาเข้าร่วมขบวนแห่ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนร่วมถวายเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝนเป็นจำนวนมาก
สำหรับวันเข้าพรรษา หรือเทศกาลเข้าพรรษา ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถือได้ว่าเป็นวันและช่วงเทศกาลทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญเทศกาลหนึ่งในประเทศไทย โดยมีระยะเวลาประมาณ 3 เดือนในช่วงฤดูฝน โดยวันเข้าพรรษาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ต่อเนื่องมาจากวันอาสาฬหบูชา ซึ่งพระมหากษัตริย์และพุทธศาสนิกชนชาวไทย ได้สืบทอดประเพณีปฏิบัติการทำบุญในวันเข้าพรรษามาช้านานตั้งแต่สมัยสุโขทัย สาเหตุที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตการจำพรรษาอยู่ ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่งตลอด 3 เดือนแก่พระสงฆ์นั้น มีเหตุผลเพื่อให้พระสงฆ์ได้หยุดพักการจาริกเพื่อเผยแพร่ศาสนาไปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งจะเป็นไปด้วยความยากลำบากในช่วงฤดูฝน เพื่อป้องกันความเสียหายจากการอาจเดินเหยียบย่ำธัญพืชของชาวบ้านที่ปลูกลงแปลงในฤดูฝน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงเวลาจำพรรษาตลอด 3 เดือนนั้น เป็นช่วงเวลาและโอกาสสำคัญในรอบปีที่พระสงฆ์จะได้มาอยู่จำพรรษารวมกันภายในอาวาสหรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยจากพระสงฆ์ที่ทรงความรู้ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์อีกด้วย
*****************************************************
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว