กาญจนบุรี ตร.ทล.ไล่ระทึกกระบะขนต่างด้าวหนีเข้าไร่อ้อยต้องเปิดลำโพงเรียกให้ออกมา

กาญจนบุรี  ตร.ทล.ไล่ระทึกกระบะขนต่างด้าวหนีเข้าไร่อ้อย หนีกระเจิงเข้าป่า ตร.ทางหลวงให้เปิดลำโพงเรียกออกมา

วันที่ 16 ธันวาคม 2568 เวลา 05.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล, พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ สุวรรณแสง พ.ต.ท.ณรงฤทธิ์ งามแฉ่ง รอง ผกก.2 บก.ทล.และ พ.ต.ต.กฤษฎา พ่วงปาน สว.ส.ทล.กก.2 บก.ทล.สั่งการให้ ร.ต.ท.กุศล ยะฝั้น รอง สว(ป.) ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล, ร.ต.ต. พีรธรรม หนูนุรัตน์ รอง สว.(ป.) ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล., ด.ต.ปกรณ์ สิทธิศักดิ์ ผบ.หมู่ ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล., ด.ต.นพดล สีนวล ผบ.หมู่ ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.ออกปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกรทำผิดกฏหมายในพื้นที่รับผิดชอบ

 หลังสืบทราบมาว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงรายงาน ให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และ ได้ออกตรวจบริเวณทางหลวงหมายเลข 323 กิโลเมตรที่100 พบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน บห 8277 กาญจนบุรี มีลักษณะต้องสงสัยบรรทุกหนัก สอดคล้องต้องสงสัยว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการขนย้ายแรงงานต่างด้าว หรือมีสิ่งของผิดกฎหมาย จึงได้ขับขี่ รถวิทยุ 2616 ติดตามรถยนต์คันดังกล่าวในระยะกระชั้นชิดและได้ใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเพื่อให้รถคันดังกล่าวหยุดและได้ทำการตรวจค้น โดยรถยนต์คันดังกล่าวได้เร่งเครื่องหลบหนี จากการเรียกตรวจค้นโดยใช้เส้นทาง วังสิงห์-บ้านเก่า เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามรถยนต์คันดังกล่าวจนกระทั่งไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณไร่อ้อยในหมู่บ้านวังเย็น หมู่ 3 ตำบลวังเย็น อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี รวมระยะ ทางประมาณ 40 กิโลเมตร ผู้ขับขี่ขับรถยนต์คันดังกล่าวได้ขับรถยนต์ เข้าไปในไร่อ้อย จนกระทั่งเสียหลักชนคันดิน รถยนต์ไม่สามารถไปได้ ผู้ขับขี่ได้ทิ้งรถหลบหนีเข้าไร่อ้อยหายไปในความมืด และพบกลุ่มบุคคลคนกำลังวิ่งลงจากท้ายรถวิ่งหนีเข้าป่าและไร่อ้อย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จึงได้ให้หนึ่งในต่างด้าวพูดผ่านโทรโข่งลำโพงรถตำรวจทางหลวง ประกาศเรียกให้คนต่างด่าวที่หลบอยู่ในป่าให้ออกมาจากป่าจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ชุดจับกุมได้ควบคุมตัว ได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อขอเข้าทำการตรวจสอบ ปรากฏว่าพบผู้ต้องหาที่ 10 พร้อมผู้ติดตามจำนวน 9 คน (เด็ก) รวม 19 คน นั่งโดยสารอยู่ภายในรถยนต์คันดั่งกล่าว เป็นบุคคลต่างด้าว โดยผู้ต้องหาทั้งหมดไม่สามารถสื่อสารหรือพูดภาษาไทยได้ จึงได้ตรวจสอบเอกสารโดยละเอียด จากการตรวจสอบปรากฎว่าไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่จากการสอบถามผู้ต้องหา (ผ่านล่ามแปล) ให้การว่าเดินทางมาจาก จังหวัดย่างกุ้ง และจังหวัดยะใข่ เมืองพญาตองซู ประเทศเมียนมา โดยขึ้นรถยนต์คันดั่งกล่าวมาจากบ้านพระเจดีย์สามองค์ โดยมุ่งหน้าเข้ามายังอำเภอเมืองจังหวัดกาญจนบุรี และใช้เส้นทาง 323 จากอำเภอสังขละบุรี ผ่านอำเภอทองผาภูมิ อำเภอไทรโยค และ อำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อจะเข้ามาทำงานตามที่นายหน้าจัดหางานให้ (ไม่ทราบชื่อ และนามสกุล) และเสียค่าเดินทางให้กับ นายหน้า จำนวนเงิน คนละ 10,000-20,000 บาทโดยจะไปทำงานที่จังหวัดราชบุรี,ตลาดมหาชัย และไปยังประเทศมาเลเซียเจ้าหน้าที่ได้แจ้งผู้ต้องหาทั้งหมดว่าเป็นความผิดและต้องถูกจับกุมดำเนินคดี จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1-10 และผู้ติดตาม 9 คน แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่าการกระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” และทำการจับกุมตัวพร้อมนำ ส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

สังวรณ์ เมฆปั่น กาญจนบุรี