กาญจนบุรี   จับทุกวันจนท.สนธิกำลังตามสะกดรอยเท้า รวบ 100 แรงงานเถื่อนชาวพม่ากลางป่า

กาญจนบุรี   จับทุกวันจนท.สนธิกำลังตามสะกดรอยเท้า รวบ 100 แรงงานเถื่อนชาวพม่ากลางป่า สารภาพกว่าจะเข้ามาได้ใช้เวลานาน 4 วัน สุดท้ายโดนจับ
วันที่ 25 สิงหาคม 2568 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.สังขละบุรี


พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผบ.ร.29/ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง ผบ.ร.29/รอง ผบก.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.มานิต นาโควงศ์ ผกก.ตชด.13(ค่ายพระพุทธยอดฟ้า)พ.ต.ท.กิตติณัติ์ ปรีชาวุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ต.ประดิษฐ์ แร่เพชร สวป.สภ.สังขละบุรี
ร่วมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดปฏิบัติการเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามการลักลอบกระทำผิดกฎหมายทุกชนิดอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะขบวนการลักลอบนำพากลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ตามเส้นทางแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอสังขละบุรี


ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมว่า ขณะเดินลาดตระเวน พบร่องรอยเท้าเป็นจำนวนมากลักษณะเดินตามกันเข้าไปในป่า คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่เพิ่งลงเรือเข้าไปหลบซ่อนตัวภายในป่า หลังจากได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จึงติดตามสะกดรอยไป จนกระทั่งพบกลุ่มบุคคลทั้งชายหญิงเป็นจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่ที่ป่าเชิงเขาบริเวณศาลาแดงริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ใกล้กับจุดชมวิวป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม หมู่ 4 ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี ห่างจากจุดตรวจร่วมจงอั่วไปประมาณ 5-6 กิโลเมตร


เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมส่งสัญญาณเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้ทั้งหมด จำนวน 100 คน เป็นชาย 62 คน หญิง 38 คน แรงงานทั้ง 100 คน มีกระเป๋าสัมภาระมากันครบ อายุระหว่าง 18-25 ปี หลังจากจับกุมตัวเอาไว้ได้จึงได้นำตัวออกจากป่ามารวมกันที่จุดตรวจร่วมจงอั่ว เพื่อคัดแยกพร้อมตรวจกระเป๋าเพื่อหาสิ่งผิดกฎหมายที่คาดว่ากลุ่มแรงงานบางรายอาจจะลักลอบซุกซ่อนนำพามาด้วย เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
จากการสอบสวนเบื้องต้นกลุ่มแรงงานให้การผ่านล่ามว่า พวกตนมาจากหลายเมืองของประเทศเมียนมา โดยเดินทางมารวมตัวกันที่อำเภอพญาตองซู ก่อนจะนั่งรถยนต์มายังบ้านบ่อญี่ปุ่น(ตรงข้ามจุดตรวจความมั่นคงน้ำเกิ๊ก) จากนั้นมีผู้ชำนาญเส้นทางซึ่งเป็นชาวพม่าด้วยกันนำพาเดินข้ามชายแดนเข้ามาฝั่งไทยด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติ เมื่อข้ามฝั่งเข้ามาได้ ผู้นำพาได้นำเดินลัดเลาะไปตามชายป่าเพื่อหลบด่านตรวจ รอจนค่ำจึงมีรถยนต์มารับ เพื่อลงเรือต่อ ใช้เวลานั่งเรือประมาณ3ชั่วโมง จึงขึ้นฝั่งเพื่อรอรถยนต์มารับ แต่ระหว่างนั่งพักคอยรอคนขับรถยนต์มารับก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
โดยเสียค่าใช้จ่ายรายละ 10,000-17,000 บาท โดยปลายทางอยู่ในจังหวัด นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และจังหวัดทางภาคใต้
หลังจากกลุ่มผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สถานีตำรวจภูธรสังขละบุรี เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานหาตัวขบวนการผู้ร่วมกระทำผิดอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แล้วค่อยดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”ก่อนที่จะผลักดันกลับสู่ประเทศต้นทางต่อไป
สังวรณ์ เมฆปั่น กาญจนบุรี