กาญจนบุรี มือดีย่องงัดรถ 3 ล้อเครื่องคู่กายคุณตาสู้ชีวิตวัย 89 ปี

กาญจนบุรี    มือดีย่องงัดรถ 3 ล้อเครื่องคู่กายคุณตาสู้ชีวิตวัย 89 ปี ที่เดินทางมาจากสุพรรณบุรีเพื่อมาขายพวงกุญแจใน”งานเทศกาลเห็ดโคนเมืองกาญจน์”เลิกขายกลับมาที่จอดรถแทบล้มทั้งยืนทั้งเตาแก๊สถังแก๊สและเครื่องนอนที่อยู่ท้ายกระบะหายเกลี้ยง
เมื่อเวลา 20.30 น. ของวันที่ 27 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบคุณตา วสัน วานิชดี อายุ 89 ปี อาชีพ ขายพวงกุญแจตุ๊กตา อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 9 ตำบลสระพังลาน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเหตุที่รถสามล้อเครื่องคู่กายคุณตายอดนักสู้วัย 89 ปี ที่บรรทุกสิ่งของเครื่องใช่ทั้ง เตาแก๊สถังแก๊ส พัดลมและเครื่องนอน และของใช้อื่นที่ได้จัดเตรียมมาเพื่อไว้สำหรับนอนค้างคืนในช่วงงานเทศกาลเห็ดโคนเมืองกาญจน์ที่ทางเทศบาลเมืองกาญจนบุรีจัดขึ้นที่บริเวณถนนสองแควริมน้ำเมืองกาญจน์ในระหว่างวันที่ 26 กันยายน ถึง 5 ตุลาคม 2566 เป็นเวลาทั้งสิ้น 10 วัน ที่ถูกมือดีงัดรถและนำสิ่งของเครื่องใช่ดังกล่าวที่คุณตาสู้ชีวิตท่านนี้นำมาหายไปอย่างไร้วีแววในคืนแรกของงานเทศกาลเห็ดโคนของดีเมืองกาญจน์


ผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงยังบริเวณงานดังกล่าวได้เดินทางเข้าไปพบคุณตาสู้ชีวิตวัย 89 ปี ที่ขี่รถจักรยานยนต์สามล้อเครื่องมาจากสุพรรณบุรีเพื่อมาจำหน่ายสินค้าซึ่งเป็นพวงกุญแจตุ๊กตาในรูปแบบต่างๆที่คุณตาได้ทำขึ้นมาเพื่อสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่แกถูกมือดีงัดรถแล้วนำสิ่งของท้ายรถไปจนหมดซึ่งได้เกิดขึ้นเมื่อคืนของการจัดงานในคืนแรกของการจัด”งานเทศกาลเห็ดโคนของเมืองกาญจน์”
คุณตาวสัน วานิชดี มีอาชีพขายพวงกุญแจตุ๊กตาในรูปแบบต่างๆ เป็นคนตำบลสระพังลาน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี และได้เดินทางออกมาจากอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เดินทางมายังจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อนำพวงกุญแจที่แกผลิตนำมาจำหน่ายภายในงานเทศกาลเห็ดโคนของดีของคนเมืองกาญจน์ ซึ่งทางเทศบาลเมืองกาญจนบุรีได้ดำเนินการจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กันยายนถึง 5 ตุลาคม 2566 พร้อมกับมอบให้บริษัทเอกชนเจ้าหนึ่งได้เขามาดำเนินการเรื่องของการจัดพื้นที่จัดล็อคให้กับเหล่าพ่อค่าแม่ค่าที่สนใจและได้เดินทางมาทำการขายสินค้าภายใน
ภายหลังการสอบถามคุณตา”วสัน วานิชดี” ได้เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 26 กันยายน 2566 เวลา 21.00 น.ว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวได้มีเพื่อนพ่อค้าที่จอดรถอยู่ใกล้กันที่บริเวณลานด้านหน้าของโรงยิมเทศบาลเมืองกาญจนบุรีตรงข้ามสนามแบตฯได้มาหาคุณตาที่ร้านบอกกับคุณตาว่ารถของคุณตาถูกงัดคุณตาและเพื่อนอาชีพเดียวกันจึงได้เดินทางมายังที่จอดรถตรวจสอบพบร่องรอยการงัดพร้อมกับทรัพย์สินหลายรายการของคุณตาสู้ชีวิตท่านนี้ได้หายไปจนเกือบจะหมด พูดจบคุณตาสู้ชีวิตได้พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปดูบริเวณที่จอดรถของคุณตาสู้ชีวิต ซึ่งจอดอยู่ตรงข้ามด้านหน้าสนามแบตมินตันติดกับโรงยิมเทศบาลเมืองกาญจนบุรีและเมื่อผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปถึงพบรถจักรยานยนต์สามล้อเครื่องสีเลือดหมูจอดอยู่ด้านข้างอาคารร้านค้าตรงข้ามสนามแบตฯ โดยคุณตาได้พาผู้สื่อข่าวไปดูร่องรอยการถูกงัดที่บริเวณส่วนต่างๆของรถคุณตาสู้ชีวิตท่านนี้


เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบุถามคุณตาสู้ชีวิตเกี่ยวกับเรื่องของการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเวรฯ สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป คุณตาสู้ชีวิตท่านนี้แกพูดและกล่าวมาเพียงสั้นๆว่า แจ้งไปก็ไม่ได้ของกลางกลับคืนมา พร้อมกับกล่าวขอบคุณผู้สื่อข่าวก่อนที่จะขอตัวเดินทางไปขายของต่อ
เกษร เสมจันทร์ กาญจนบุรี