นครปฐม   โรงพยาบาลสามพรานซ้อมแผนการเผชิญเหตุการเกิดอัคคีภัยและอพยพหนีไฟ 

นครปฐม   โรงพยาบาลสามพรานซ้อมแผนการเผชิญเหตุการเกิดอัคคีภัยและอพยพหนีไฟ

เมื่อวันที่21กันยายน2566 ที่ โรงพยาบาลสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐมนายแพทย์ทินกร ชื่นชม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการป้องกันระงับอัคคีภัยและการซ้อมแผนอพยพหนีไฟ ของโรงพยาบาลสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ปีงบประมาณ 2566   พร้อมด้วย รองผู้อำนวยการฯ คณะผู้บริหาร  แพทย์  พยาบาลและเจ้าหน้าที่ บุคลากรโรงพยาบาลสามพราน ร่วมซ้อมแผนอพยพหนีไฟ โดยเชิญ วิทยากรจากงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองไร่ขิง รถกระเช้าจากเทศบาลตำบลอ้อมใหญ่ และอาสาสมัครกู้ภัยพรานพิทักษ์  ร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้ด้านการใช้อุปกรณ์ดับเพลิงและการป้องกัน ทั้งภาคทฤษฏีและปฎิบัติ

ตามที่โรงพยาบาลสามพรานได้ดำเนินการพัฒนาระบบคุณภาพมาโดยตลอด ซึ่งการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยเป็นอีกเรื่องที่มีความสำคัญที่ทางโรงพยาบาลให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมด้านการป้องกันและระงับอัคคีภัย การอพยพขนย้ายเมื่อเกิดอัคคีภัยโรงพยาบาลสามพรานเล็งเห็นถึงความสำคัญ ดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการป้องกันระงับอัคคีภัยและการซ้อมแผนอพยพหนีไฟ ของโรงพยาบาลสามพราน ปีงบประมาณ 2566

จากสถานการณ์ภัยพิบัติในปัจจุบัน ทั้งจากภัยธรรมชาติ และภัยที่เกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ที่เกิดขึ้นบ่อย และทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ได้สร้างความสูญเสียอย่างมหาศาลต่อความปลอดภัยในการดำรงชีวิตและทรัพย์สินของทางราชการ ซึ่งเป็นผลกระทบโดยตรงและทางอ้อม คือสูญเสียเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากต้องนำงบประมาณไปใช้ในการช่วยเหลือรักษาพยาบาลผู้ประสบภัยฟื้นฟูบูรณะสิ่งปลูกสร้างและระบบสาธารณูปโภค  ด้วยเหตุนี้โรงพยาบาลสามพรานซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วย มีทรัพย์สินของทางราชการและรวมถึงเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสามพราน ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันและระงับอัคคีภัยเพื่อลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น

จึงได้ ดำนินการในการเตรียมความพร้อมด้านความรู้ความเข้าใจในการระงับอัคคีภัยรวมถึงการซ้อมแผนอัคคีภัยให้เจ้าหน้าที่ทุกแผนก เป็นประจำทุกปีโดยมุ่งเน้นให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการระดมพลังเมื่อเกิดอัคคีภัยและให้มีความรู้ความสามารถในการเตรียมพร้อมป้องกันการเกิดอัคคีภัยสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยและตนเองให้มีความปลอดภัยในชีวิตและป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินของทางราชการ อีกด้วย