คอนเสิร์ต “ปานดอกไม้ที่กลับมา” สู่วันที่เบ่งบาน

คอนเสิร์ต “ปานดอกไม้ที่กลับมา” สู่วันที่เบ่งบาน
……………………………………………
“ถ้าห้ามได้ ปานไม่อยากให้พี่บรรณจัดงานนี้เลย” เสียงทักทายกลางเวทีของนักร้องสาวปากจัดใจบุญ ฟุ้งกระจายไปสู่คนฟังร่วม 300 ชีวิต ภายในหอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย แค่ลิเกออกโรง ฟังคล้าย งานนี้ เหมือนว่าจะกร่อย?
เปล่าเลย! กลับสร้างความรู้สึกเป็นกันเอง ง่ายๆ สบายๆ ขณะที่บนเวทีเครื่องดนตรีระดับ “บิ๊กแบนด์” ตั้งตระหง่าน ทั้งเครื่องสี ไวโอลิน เซโล เครื่องเป่าบาธ แซกโซโฟน ทรัมเป็ต ทรอมโบน จัดเต็มด้วยนักดนตรีชั้นเซียนร่วม 10 ชีวิต
บทสรุปคอนเสิร์ตปานดอกไม้ที่กลับมา ของปาน ธนพร แวกประยูร บอกได้เลย! คนที่พลาดโอกาสไปชมสดๆ ควรไปหาซื้อดีวีดี มารับชมซะ! แม้จะดูเป็นงานเล็กๆ แต่เก็บรายละเอียดได้เต็มคาราเบล
เปิดเวทีด้วยเพลงใหม่ “จำเป็นรัก” เพลงเอกในอัลบั้ม “ดอกไม้ที่กลับมา” ธีมดนตรีอัดมนต์เสน่ห์ยุคไนท์คลับกับเสียงร้องขนานเครื่องดนตรีบาธ แซกโซโฟน ทรัมเป็ต ทรอมโบน ช่วงท่อนแยกเปลี่ยนโหมดเมเจอร์สู่ไมเนอร์ นี่คือ บทเฉพาะกาลของเพลงลูกกรุง ในยุค 70


เพลง “ลงทุนรัก” จังหวะชาชาช่า ฟังแล้วชวนลีลาศชะมัด! ตัวตนความเป็นศิลปินของ บรรณ สุวรรณโณชิน ผู้ประพันธ์ และเจ้าของค่ายใบชาซอง ค่อนข้างเด่นชัดในเรื่องภาษา และนักอนุรักษ์ แต่เป็นคนที่น่ารักเหมือนเช่นงานเพลง “วอลท์หน้าร้อน” และ “ได้มีชีวิต” ถ้อยคำภาษาวรรณศิลป์ที่แฝงไว้ซึ่งสัจธรรม ยิ่งเพลง “อา..26” ลูกเล่นภาษา ผ่านดนตรีบอสซ่า ฟังแล้วสบายหู
ผลงานเพลงใหม่ เพลง “ความเหงาเคล้าความขมขื่น” นี่แหละ! บอกถึงผู้หญิงที่ชื่อปาน ธนพร ได้ชัดเจนในความเป็นไม่ยึดติด ไม่จมปลัก ใช้สติในการแก้ไขปัญหา อาจเป็นเพลงหนึ่งเดียวที่เป็นธีมดนตรีร่วมสมัย และจะเป็นที่ถูกใจแฟนเพลงปาน ออแกนิค
ผู้จัดงาน บรรณ สุวรรณโณชิน เลือกนักร้องรับเชิญคนใกล้ตัว ทวีพร เต็งประทีป ดีกรีนักร้องเวทีสยามกลการ มาร่วมร้องเพลงคู่ “คุณจะรักฉัน” อารมณ์นี้ ทำให้นึกย้อนถึงคู่ขวัญศิลปินแห่งชาติ สุเทพ-สวลี
พูดถึงศิลปินเก่าก็ขอชื่นชมโปรดิวเซอร์งานเพลง ที่ได้คัดเลือก 2 เพลงอมตะ “รักฝังใจ” และ “ไฟเสน่หา” ของเจ๊บ่วย ว วัชญาน์ นักประพันธ์เพลงผู้ล่วงลับมาคัฟเวอร์ทำดนตรีใหม่


เพลง “รักฝังใจ” ดนตรียังคงกลิ่นอายเพลงลูกกรุงยุครุ่งโรจน์ ต่างเพียงไม่หวานเท่าต้นฉบับ ที่ศันสนีย์ นาคพงศ์ ขับร้องคล้องไปกับเสียงฟรุต เวอร์ชั่นนี้ดึงความฐิติของปาน ธนพร สะท้อนเป็นความคับแค้นดั่งชื่อเพลง ล้อไปกับเครื่องบาธ ฟังแล้วได้อารมณ์อีกแบบ
เพลงเดียวที่บรรณ สุวรรณโณชิน ไม่ได้แต่งคำร้อง เพลง “ดวงตาสวรรค์” ฟังแล้วต่อยอดความคิด เป็นเพลงที่เหมาะกับ “ละครเวที” อ้อ! เพลง “คุณเชื่อไหม?” ก็ควรค่าเป็นเพลงประกอบละครชั้นเลิศ
เสียงหัวเราะ และความสุขในคอนเสิร์ตปานดอกไม้ที่กลับมา ก็ไม่ได้ด้อยค่าไปกว่าบทเพลง ด้วยนักร้องรับเชิญ ระดับ ครูแหม่ม พัชริดา และฟอร์ด สบชัย ที่มาร่วมคัฟเวอร์เพลงดัง “ตราบใด”, “รักคือฝันไป” การได้เชิดชู แถมนินทาแม่เม้าท์ สุดา ชื่นบาน ในความเป็นศิลปินต้นแบบในแต่ “แพชชั่น” อารมณ์ที่ตกผลึกเสมือนทุกคนที่อยู่ภายในฮอลล์คือ ครอบครัวเดียวกัน
เสียดายก็แค่! สถานที่ครับ? เจ้าหน้าที่ สวช. กำชับเร่งเวลาให้ยุติตามเวลา จนทำให้หลายคนพลาดโอกาสฟังเพลงครบถ้วน ทั้งๆ ที่แสดงตรงกับวันศิลปินแห่งชาติ นี่ถ้าไม่มีงานคอนเสิร์ตปานดอกไม้ที่กลับมา ศูนย์วัฒนธรรมฯ เงียบไม่ต่างป่าช้าวัดดอน แหม! นิทรรศการเชิดชูศิลปินแห่งชาติ แม้แต่ยามก็ยังไม่มีมาเฝ้า!!