กาญจนบุรี    ชาวบ้านรวมตัวไปแจ้งความยังสถานีตำรวจท่ามะกาขโมยชุกชุม

กาญจนบุรี    ชาวบ้านรวมตัวไปแจ้งความยังสถานีตำรวจท่ามะกาขโมยชุกชุม

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ที่สถานตำรวจท่ามะกา ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ข้าราชการครู และประชาชน ที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร ชื่อดังในตำบลหวายเหนียว อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ที่มีชายผิวดำ ปีนรั้วกำแพง เข้าไปในหมู่บ้าน ก่อนเดินไปตามบ้านของประชาชนโดยไปเปิดประตู บ้านไปเรื่องๆ มีบางหลังเจ้าของบ้านได้ยืนมองดูพฤติกรรมของชาวคนดังกล่าว อยู่ด้านในบ้านที่ติดฟิล์มดำ คนด้านในมอบเห็นด้านนอก แต่ด้านนอกไม่สามารถมอบเห็นผู้อยู่ด้านใน ซึ่งชายคนดังกล่าว ได้เข้ามาดึงประตูบ้าน เมื่อเปิดไม่ได้ก็เดินไปเปิดหลังอื่นไปเรื่อยๆ โดยทำให้ประชาชน เกิดอาการว่าอาจเกรงจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากในหู่บ้านแห่งนี้จะมีเด็ก มีผู้ศุงอายุ อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งชายคนดังกล่าวจะเข้าไปในช่วงตอนกลางคืน


หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ ทางชาวบ้านที่ที่โดนชายรายดังกล่าวเดินเข้าไปใช้มือโยกประตู โชคดีที่เปิดไม่ได้ หากเปิดได้ยังไม่ทราบจะเกิดอะไรขึ้นมาไม่อยากจะคิด เรื่องนี้ได้ไปแจ้งกับทาง เจ้าของโครงการหมู่บ้านแล้ว แต่ก็ไม่ได้ดำเนิการใดๆ จึงได้รวมตัวไปแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ติดตามชายดังกล่าวตามที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้อย่างชัดเจนมาก และหลังได้ไปแจ้งความกับทางสถานีตำรวจท่ามะกา แล้วเจ้าหน้าที่ก็ได้ติดตามจับกุมตัวไว้ได้แล้วทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นชาวเมียนมา เบื้องต้นสอบสวนให้การวกวนจากความมึนเมา ต้องรอให้เจ้าตัวอยู่ในอาการปกติจะมีการสอบสวนจะได้รับความชัดเจน


ข้าราชการสาวรายหนึ่งกล่าวว่า กล้องวงจรปิดบันทึกภาพชายดังกล่าวไว้ได้ชัดเจน ที่ปีนกำแพงเข้ามาในบ้านไปโยกบิดลูกบิดประตูบ้าน เพื่อจะเข้าไปในบ้าน แตะประตูล็อกเปิดไม่ได้ก็เดินเข้าไปด้านหลัง แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ว่าได้ปีนกำแพงไปบ้านข้างๆ แล้วก็ปีนต่อไปเรื่อยๆ แต่มีบ้านบางหลังได้ถูกชายรายนี้หยิบของมีค่าไปด้วย จึงได้รวมตัวกันมาแจ้งความพร้อมภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดมามอบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ด้วย สามารถจับภาพไว้ได้ชัดเจน


สำหรับจุดที่คนร้ายเข้ามานั้นน่าจะเป็นสาเหตุที่กำแพงของโครงการในหมู่บ้านชำรุดทรุดตัวพังลงมา สาเหตุเกิดจากที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ทางโครงการยังไม่ได้เข้าไปดำเนินการแก้ไขให้อยู่ในสภาพปกติ และอาจจะทำให้คนร้ายได้เข้ามาอย่างสะดวก ส่วนการแก้ไขต่อไป ก็จะต้องมีการติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ติดกรงเหล็กป้องกันเพิ่มเติม ระหว่างกำแพงของบ้านแต่ละหลัง รวมถึงการสร้างไลน์กลุ่มของคนในหมู่บ้าน เพื่อจะได้ช่วยกันสอดส่องดูแล แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ก็อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เทศบาล จัดสายตรวจวนเวียนสอดส่องภายในหมู่บ้านให้มากยิ่งขึ้น ย้ำถึงเจ้าของโครงการให้เร่งช่วยเข้าไปแก้ไขกำแพงที่ทรุดพังลงไปให้เป็นปกติโดยเร็วด้วย ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเพิ่งมาเกิดเป็นครั้งแรกของหมู่บ้านนี้ คนในหมู่บ้านก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน การจอดรถหรืออื่นๆ เราก็แจ้งพูดคุยกันไม่มีอะไร แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทำให้คนในหมู่บ้านแย้ เกิดอาการวิตกกังวลไปทั้งหมู่บ้าน บางหลังมีผู้หญิงคนเดียว บางหลังมีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนชรา อาจจะเกิดความวิตกกังวล อาจต้องมาป้องกันมากกว่าเดิม./
เกษร เสมจันทร์ กาญจนบุรี