สมุทรปราการ   บิ๊กโจ๊กนำทีมลุยจับเรือลักลอบขนน้ำมันเถื่อน

สมุทรปราการ   บิ๊กโจ๊กนำทีมลุยจับเรือลักลอบขนน้ำมันเถื่อน
*****เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 10 ต.ค.65 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่สรรพสามิต และ ศุลกากร เดินทางมาที่ ท่าเทียบเรือของ บริษัทแห่งหนึ่ง  อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพื่อร่วมกันตรวจสอบเรือบรรทุกน้ำมัน  สัญชาติเรือตูวาลู ภายหลังจากสืบทราบว่าเรือลำดังกล่าว มีพฤติการณ์ลักลอบนำเข้าน้ำมันเบนชิน จากประเทศสิงคโปร์ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยหลายครั้ง ปริมาณครั้งละหลายล้านสิตร โดยใช้วิธีการแจ้งสำแดงการ นำเข้าเป็น เอทานอล และ เมทานอล
*****พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า สืบเนื่องจาก ประเทศไทยประสบกับปัญหาการลักลอบนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงมาเป็นเวลานาน แม้ว่าจะมีการจับกุม มาอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่ผู้กระทำผิดได้พัฒนารูปแบบการกระทำผิดมากขึ้น เช่นการลักลอบนำเข้าทั้งทางบกและทางทะเล การลักลอบปะปนมากับสินค้าอื่นๆ การสำแดงเอกสารเท็จ เป็นต้น จนทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้จากภาษีสรรพสามิตอย่างมหาศาล ตลาดของบริษัทผู้ค้าน้ำมันถูกเอารัดเอาเปรียบ และประชาชน ต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากน้ำมันที่ไม่ได้คุณภาพ


*****จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบหมายหน้าที่และการสั่งการให้ ตน ในฐานะ ผอ.ศปนม.ตร. (ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง ทำหน้าที่ในการสืบสวน ปราบปราม และจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง กระทั่ง เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ทราบว่า มีเรื่อบรรทุกน้ำมัน   สัญชาติเรือตูวาลู เดินทางจากประเทศสิงคโปร์มายังประเทศไทย เข้ามาเทียที่ท่า บริษัท เลนโซ่ เทอร์มินอล โดยจะลักลอบนำน้ำมันเบนซินจำนวน 4-5 ล้านลิตรมาด้วย ศปนม.ตร.โดย พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 , พ.ต.อ.แดนไพร ก.สส.สตม. จึงร่วมกับ พ.ต.อ.เติมรัศม์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่สรรพสามิต และ ศุลกากร และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าทำการตรวจค้นเรือลำดังกล่าว เมื่อเข้าตรวจค้นพบว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมเรือได้แสดงเอกสารแจ้งนำเข้าสารเมทานอล 486,337 ลิตร และมี เบนซินไร้สารตะกั่ว 4,847,706 ลิตร บรรทุกมาในเรือลำดังกล่าวด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถาม ผู้ควบคุมจัดการสินค้าจึงได้นำเอกสารของบริษัท อีกฉบับมาแสดงต่อ เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร โดยแจ้งว่าสารเอทานอล และ น้ำมันเบนชินดังกล่าวจะขนต่อ ไปประเทศเวียดนาม ไม่ได้นำเข้ามาในประเทศไทย

แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบสายท่อขนถ่ายในที่เกิดเหตุมีคราบน้ำมันเบนชินชนิดเดียวกับที่บรรทุกมาในเรือ เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐานจึงได้ตรวจเก็บตัวอย่างของสารชนิดต่างๆ พร้อมกับได้สั่งกักเรือดังกล่าวเพื่อทำการตรวจสอบ ทั้งนี้จากการสืบสวนเรือลำนี้ได้เข้า เทียบท่าเรือดังกล่าวมาแล้วถึง 28 ครั้ง โดยแจ้งการนำเข้า สารเมทานอล มาโดยตลอดและมีต้นทางจากประเทศ สิงคโปร์ มาส่งสินค้นค้าที่ท่าเรือนี้ จากนั้นจะเดินทางกลับสิคโปร์ทันที ไม่เคยเดินทางจากประเทศไทยไปประเทศเวียดนามตามที่อ้างแต่อย่างใด หลังจากนี้จะได้รวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการขนถ่ายน้ำมันเบนซินดังกล่าว หากพบว่ามีการลักลอบขนถ่ายเข้ามาในประเทศไทยมีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีหรือ หากพบว่ามีการสำแดงเอกสารเท็จ จะมีการพิจารณาดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ และ พ.ร.บ.สรรพสามิตฯ ต่อไป
**********************************************
วิวรรธน์ ยั่งยืนเตชานนท์ สมุทรปราการ 0916986925