ตรัง บิ๊กโจ๊กติดตามการให้ความช่วยเหลือลูกเรือประมงที่กระโดดทะเลหนี

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่จังหวัดตรังในการติดตามการให้ความช่วยเหลือลูกเรือประมงที่กระโดดทะเลหนีจากเรือประมงเนื่องจากถูกกดขี่และใช้งานหนัก เจ้าของเรือและไต๋เรือไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด
ที่สถานีตำรวจภูธรกันตัง จังหวัดตรัง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลต.ต.สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พบลูกเรือที่กระโดดลงทะเลหนีจากเรือประมง โดยนำลูกเรือมาไกล่เกลี่ยกับตัวแทนเจ้าของเรือ เพื่อให้ได้รับเงินเยียวยา ทั้งนี้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เรือประมงพร้อมเจ้าของใช้งานลูกเรือทารุณ จนต้องกระโดดน้ำหนี จากกรณีที่ประเทศไทยได้ถูกลดอันดับการรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์จากทางการสหรัฐฯ ลงเป็นอันดับประเทศที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List) โดยมีข้อสังเกตในเรื่องการแก้ไขปัญหาเที่ยวกับการค้ามนุษย์อย่างจริงจังในทุกภาคส่วน ปัญหาการใช้แรงงานเด็ก การบังคับใช้แรงงานและแรงงานข้ามชาติ ซึ่งเกิดขึ้นในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ทางรัฐบาลไทยได้กำชับให้ทุกหน่วยงานของภาครัฐและเอกชนบูรณาการกำลังในทุกภาคส่วน ดามที่ทราบแล้ว นั้น

กรณีดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย และการบังคับใช้แรงงานในภาคการประมง จากการตรวจสอบพบว่า ในระหว่างปีพ.ศ.2563 – 2564 ที่ผ่านมา มีการแจ้งลูกเรือเสียชีวิต สูญหาย และประสบอุบัติเหตุตกน้ำจำนวนทั้งสิ้น 230 ราย จากเรือประมง 229 ลำ โดยสามารถแบ่งกลุ่มข้อมูลได้เป็น 3 กลุ่มคือ(1) กลุ่มลูกเรือที่ประสบอุบัติเหตุพลัดตกน้ำ ตรวจพบ และยืนยันว่าเสียชีวิต จำนวน 53 ราย (2) กลุ่มลูกเรือที่ประสบอุบัติเหตุพลัดตกน้ำ ตรวจพบ และยืนยันว่ายังมีชีวิตอยู่ จำนวน 53 ราย(3) กลุ่มลูกเรือที่ประสบอุบัติเหตุพลัดตกน้ำ และยังหาไม่พบ จำนวน 124 รายเมื่อมีการตรวจสอบข้อมูลการสูญหายของคนบนเรือ 124 ราย

โดยละเอียดจากการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร์ และสอบถามข้อมูลจากญาติผู้สูญหาย เบื้องตันตรวจพบลูกเรือ 2 ราย ที่มีการแจ้งสูญหายแต่ยังมีชีวิตอยู่คือ นายอุเทน เกิดโมลี อายุ 45 ปี ชาวขอนแก่น ทำงานบนเรือศรีนพรัตน์ และนายมานะ รังปัญญาอายุ 30 ปี ชาวบุรีรัมย์ ทำงานบนเรือพงษ์ชัยเจริญสมุทรานะฯ ให้การว่าได้ไปทำงานบนเรือประมงชื่อ พงษ์ชัยเจริญสมุทร มีนายเสถียร เงินอเนก หรือเสี่ยทัวร์ เป็นเจ้าของเรือ โดยได้ออกเรือจากจังหวัดสมุทรสาคร ไปจังหวัดตรัง และมุ่งหนำไปทำประมงทะเลใกล้กับประเทศอินโดนีเซีย โดยนายมานะ ฯ ทำหน้าเป็นคนอวน มีได๋เรือจำนวน 2 คนคือนายศุภกร ฯฯ และนายกฤษณะ ฯ ซึ่งการทำงานบนเรือใน 1 วัน จะได้พักไม่เกิน 6 ชั่วโมงและไม่ต่อเนื่อง บางครั้งต้องทำงานติดต่อกัน 2 วัน 2 คืนถึงจะได้พัก โดยจะมีการกลับเข้าฝั่งที่ อ.กันตัง จ.ตรัง เพื่อนำปลามาส่งเดือนละ 1 ครั้ง ตนทนทำงานจนกระทั่งในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2564 รอบออกเรือครั้งที่ 13 ตนทนทำงานหนักไม่ไหว จึงตัดสินใจกระโดดน้ำหนีขณะที่เรืออยู่ในน่านน้ำประเทศอินโดนีเซีย และต้องทนลอยคออยู่กลางทะเล 3วัน 3 คืน จนกระทั่งมีเรือประมงของประเทศอินโดนีเซียมาช่วยเหลือ นำกลับเข้าฝั่งที่จังหวัดอาเจะห์ อินโดนีเซียและได้รับความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศอินโดนีเซียประสานส่งตัวกลับมายังประเทศไทยในเวลาต่อมา

จากข้อมูลดังกล่าว คณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพฯ จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ร่วมกระทำผิดต่อพนักงานสอบสวน สภ.กันตัง ก.จว.ตรัง ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 1. นายศุภกร ลายแจ้ง อายุ 59 ปี ทำหน้าที่ผู้ควบคุมการทำงานบนเรือ (ไต๋เรือ). นาย กฤษณะ คงโอ อายุ 43 ปี ทำหน้าที่ผู้ควบคุมการทำงานบนเรือ (ได้เรือ) ช่วงตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน 25643. นายเสถียร เงินอเนก อายุ 61 ปี เจ้าของเรือ นักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบถึงการดำเนินการและการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงผิดกฎหมาย หากประซาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง ช่องทางสายด่วน 1599 นอกจากนี้ยังได้มีการประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นแรงงานจังหวัดตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ศูนย์PIPO เพื่อปรับการทำงานให้ดีขึ้น
ในส่วนของคดีที่มีการถ่ายคลิปโป๊ ที่มีผู้ต้องหาชาวไทยและชาวจีนนั้น ขณะนี้ได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว และจะขยายผลไปยังเจ้าของโรงแรมที่ใช้ในการถ่ายคลิปโป๊ด้วย ว่ามีใบอนุญาตหรือไม่ หากไม่มี จะสั่งปิดทันที หากมีใบอนุญาตจะส่งเรื่องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสั่งปิดโรงแรมเช่นกัน
มนต์เจริญ ศรีมงคล จ.ตรัง