อ่างทอง รัฐมนตรีฯ อนุทิน ลงพื้นที่หนุนเพิ่มศักยภาพ อสม.

รัฐมนตรีฯ อนุทิน ลงพื้นที่จังหวัดอ่างทอง หนุนเพิ่มศักยภาพ อสม.พร้อมช่วยงานการแพทย์ฉุกเฉิน
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2565 เวลา 10.00 น. ที่อาคารโดม “สำนึกรักบ้านเกิด” องค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การดำเนินงานและบริหารจัดการระบบการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดอ่างทอง พร้อมมอบอุปกรณ์สำหรับฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส เพิ่มคุณภาพชีวิต


โดยมี นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายภราดร –นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย และคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองทั้งสองท่าน หัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) จังหวัดอ่างทอง ทั้ง 7 อำเภอ จำนวน 5,290 คน ในการนี้มีผู้บริหารร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัด เรืออากาศเอก นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ นายสุรเชษ นิ่มกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง พลตำรวจตรีวิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง นพ. ธนะวัฒน์ วงศ์ผัน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง และ พญ.ดวงพร อัศวราชันย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอ่างทอง เพื่อบูรณาการร่วมกันในการบริหารจัดการให้ประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉินในพื้นที่ สามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทันท่วงที ปลอดภัย และเท่าเทียมกันเป็นการลดความพิการ และเสียชีวิต


นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวว่าแม้ขณะนี้สถานการณ์โรคโควิด 19 จะเริ่มดีขึ้น และเตรียมปรับมาตรการต่าง ๆ เพื่อเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น แต่ยังคงต้องเฝ้าระวัง ป้องกันตนเอง และเข้ารับวัคซีนตามกำหนด ซึ่ง อสม. คือกำลังสำคัญของกระทรวงสาธารณสุขในการดำเนินการต่างๆ ในพื้นที่ การพัฒนาองค์ความรู้ให้กับ อสม. ทั้งเรื่องการเฝ้าระวังป้องกันโรคโควิด 19 และโรคอุบัติใหม่ การดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้น รวมถึงทักษะการกู้ชีพ และทักษะอื่นๆ ที่จำเป็นในการช่วยชีวิตเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้ามามีส่วนร่วมในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน จะช่วยให้งานสาธารณสุขในพื้นที่มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น และจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อประชาชนในจังหวัดอ่างทองพร้อมให้กำลังใจแก่อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ที่เป็นผู้เสียสละอุทิศตนให้กับการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข และได้มอบป้ายศูนย์ร่วมสุข และเสื้อแก่ประธาน อสม.ให้กับ 7 อำเภอ พร้อมทั้งมอบอุปกรณ์ฟื้นฟูสภาพผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสและมอบป้ายประจำศูนย์เครื่องช่วยความพิการ ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง ได้มอบอุปกรณ์ฟื้นฟูสมรรถภาพ อาทิ ขาเทียม รถเข็นนั่ง ไม้เท้าพยุงตัว หมอนป้องกันแผลกดทับ ให้กับผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ได้นำใช้ในการฟื้นฟูตนเองต่อเนื่องที่บ้าน เป็นการช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และมอบเงินกรมธรรม์ให้กับ อสม.ที่ติดเชื้อโควิด 19

จากการปฏิบัติหน้าที่ รายละ 20,000 บาท จำนวน 276 รายรวมเป็นเงิน 5,520,000 บาท (ห้าล้านห้าแสนสองหมื่นบาทถ้วน) โดยมุ่งหวังว่าอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ที่เป็นกำลังหลักสำคัญจะสามารถพัฒนาด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตรับผิดชอบ การป้องกันโรค และการรักษาพยาบาลเบื้องต้น ตลอดจนเป็นผู้นำการสร้างสุขภาพให้แก่ชาวบ้านในชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถจัดระบบสุขภาพชุมชนได้อย่างเหมาะสมด้วยตัวชุมชนเองได้อย่างยั่งยืน
สาทร คชวงษ์ / รายงาน