กาญจนบุรี    ตำรวจทางหลวงไทรโยคไล่จับรถพ่วง18ล้อขนต่างด้าวกว่า100คนผูกข้อมือ3สีตามใบสั่ง

กาญจนบุรี    ตำรวจทางหลวงไทรโยครถพ่วง 18 ล้อ ขนแรงงานกว่า 100 คน ผูกข้อมือ 3 สี ตามใบสั่ง เจ้าหน้าที่. รับแจ้งจากชาวบ้านมีรถพ่วงบรรทุกแรงงานผ่านตู้ไป ไล่ไปพบพ่วงดังกล่าวกำลังหลบเข้าไร่มัน ต้องไล่ล่ากันต้นมันราบต้องยิงปืนขู่ ส่วนค่าหัวรายละ 25,000 – 30,000 บาท

///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงไทรโยค ได้รับแจ้งจากสายเป็นชาวบ้านว่ามีรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกแรงงานจำนวนมาก วิ่งผ่านตู้ไป จึงได้วิทยุแจ้งให้ตู้รายทางด้านเขตไทรโยค เพื่อสกัดรถดังกล่าว จนรถพ่วงคันดังกล่าวได้แล่นผ่านแล้วเข้าไปยังจุดนัดหมายเพื่อนำแรงงานส่ง พบรถพวงตัวรถหมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 70 – 9964 กาญจนบุรี ตัวพ่วงหมายเลขทะเบียน 70 – 9965 กาญจนบุรี สีเหลืองแต่รถเกิดติดหล่มต้องถอดตัวพ่วงออกจนเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 2 นาย ตามไปเจอ จึงนำตัว นายณรงค์ศักดิ์ ไชยบุญ อายุ 33 ปี บ้านอยู่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นคนขับนำพาแรงงานทั้งหมดชายหญิงและเด็กกว่า 100 คน โดยได้นำลงมาจากพื้นที่อำเภอสังขละบุรี และมาส่งยังจุดนัดที่เชิงเขาหมู่ที่ 9 บ้านหนองสามพราน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นจุดที่รถเข้าไปติดหล่ม


ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 2 นาย กำลังนำตัวคนขับรถมาสอบ เพื่อรอกำลังมาเสริม บรรดาแรงงานได้ลงจากรถพ่วงหลบหนีไปแอบซ่อนตัวอยู่ในป่าไร่มันสัมปะหลัง เจ้าหน้าที่ ที่ได้เดินทางไปสมทบต้องกระจายกำลังออกค้นหาอยู่นาน เมื่อเจอแรงงานเหล่านั้นเตรียมวิ่งหนี เจ้าหน้าที่ต้องใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าข่มขู่ ก่อนแรงงานทั้งหมดเดินออกมาจากไร่มันสัมปะหลัง มีทั้งหญิง – ชาย และเด็กเล็กบางรายอายุแค่เพียง 5 เดือน รวมอยู่ในกลุ่มแรงงานนี้ด้วย
จากการสอบถาม ทราบว่าแรงงานทั้งหมดเดินทางจากเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา พบบางรายมีนายจ้างที่เคยทำงานในจังหวัดพิษณุโลก บอกว่าตนเองได้เดินทางกลับไปทำงานศพแม่กว่า 5 เดือนแล้ว ในประเทศเมียนมา และทางนายจ้างแจ้งให้เดินทางกลับไปทำงาน แต่ช่องทางแม่สอด ยังไม่เปิดให้เข้าได้ จึงได้ร่วมเดินทางมากับในกลุ่มแรงงานนี้ด้วย ไม่คิดว่าจะมาโดนจับกุม

สำหรับแรงงานทั้งหมด นายหน้าได้รับงานให้จัดส่งไปทำงานใน 3 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดพิษณุโลก ปทุมธานี และจังหวัดระยอง แรงงานที่พูดภาษไทยได้แจ้งว่า นายหน้าจัดแบ่งเป็นกลุ่ม โดยมีเชือกผูกข้อมือเป็นสีที่จะไปทำงาน เช่น สีแดงไปทำงานที่ปทุมธานี สีเหลือง ไปทำงานที่พิษณุโลก และสีเขียงไปทำงานที่จังหวัดระยอง ทั้งหมดบอกว่าเสียค่าหัวรายละ 25,000 ถึง 30,000 บาท แล้วแต่สถานที่ไปทำงาน และทั้งหมดได้เดินทางไปขึ้นรถพ่วงตั้งแต่ช่วง 16.00 น. ของวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 แล้วรถพ่วงได้ปิดคลุมผ้าใบมิดชิดมองไม่เห็นเส้นทางจนมาถูกจับได้ ทั้งหมดบอกว่ายังไม่ได้กินข้าวกินน้ำตั้งแต่เมื่อวานแล้ว และเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายทั้งหมดก่อนส่งตัวไปยัง สถานีตำรวจภูธรลาดหญ้า เพื่อดำเนินคดีก่อนส่งตัวทั้งหมดกลับออกกลับไปบ้านเกิดต่อไป


เบื้องต้น นายณรงค์ศักดิ์ ไชยบุญ คนขับสิบล้อพ่วงให้การว่า ตนเองได้รับจ้างให้ขับรถพ่วงดังกล่าวบริเวณท่าแพ อำเภอทองผาภูมิ ตนเองก็ได้ขับรถไปจอดทิ้งไว้ แล้วก็ได้ขับรถพ่วงดังกล่าวโดยมี หญิงลูกอ่อนนั่งมาด้านหน้าด้วย ซึ่งตนเองไม่เห็นบุคคลที่อยู่ภายในกระบะของรถนั้น เนื่องจากมีผ้าใบปิดมิดชิด โดยแจ้งให้ขับรถไปจอดยังจุดในไร่มันสัมปะหลัง และเมื่อมาจอดยังจุดนัดได้พบก็เห็นรถกระบะสีขาวหมายเลขทะเบียน บว 8661 กาญจนบุรี จอดรออยู่ด้านในบริเวณจุดดังกล่าว และทันทีก็มาถูกเจ้าหน้าที่ไปตรวจพบ ส่วนเรื่องอื่นๆ ตนเองไม่ทราบ ส่วนรถพ่วงดังกล่าวเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวเจ้าของมาสอบสวน เบื้องต้นทราบว่ารถพ่วงได้นำหินไปส่งยังร้านในพื้นที่สังขละบุรี ตั้งแต่บ่ายของวานนี้แล้ว และจะวิ่งในพื้นที่นี้มานานแล้วเช่นกัน./


เป็นที่น่าสังเกตว่า ปัจจุบัน ขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จะใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นรถที่ใช้บรรทุกพืชไร่ และวัสดุก่อสร้าง และคลุมผ้าใบอย่างมิดชิด เพื่ออำพลางเจ้าหน้าที่ ประกอบกับน้ำมันแพง ขนทั้งทีต้องให้คุ้ม
เกษร เสมจันทร์ กาญจนบุรี