สมุทรปราการ    ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีผู้บุกรุกเข้าเขตการบิน

สมุทรปราการ    ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีผู้บุกรุกเข้าเขตการบิน
*****ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีมีผู้บุกรุกเข้าเขตการบิน โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถเข้าระงับเหตุสกัดจับได้ขณะนี้ผู้บุกรุกได้ถูกจับกุมนำส่งตัวดำเนินคดีข้อหาบุกรุกและใช้อาวุธกระทำการอันอาจเป็นอันตรายต่อท่าอากาศยาน
*****เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 3 พฤษภาคม 2565 ที่หน้าห้องศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) ประตู 8 ชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ท่าอากาศสุวรรณภูมิ ร่วมกันแถลงข่าว กรณีมีผู้บุกรุกเข้าเขตการบิน โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถเข้าระงับเหตุสกัดจับได้ขณะนี้ผู้บุกรุกได้ถูกจับกุมนำส่งตัวดำเนินคดีข้อหาบุกรุกและใช้อาวุธกระทำการอันอาจเป็นอันตรายต่อท่าอากาศยาน


*****จากกรณี เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 11.50 น.ที่ ทางเข้าลานจอด Control post 3 ได้เกิดเหตุมีบุคคลภายนอกขับขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า GPX รุ่น DEMON สีดำ ทะเบียน 5กษ-3226 กรุงเทพมหานคร เป็นช่างซ่อมสายพานลำเลียงคลังสินค้า ช้อปปี้ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พกอาวุธ ฝ่าฝืนมาตรการรักษาความปลอดภัยบุกรุกเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามภายในเขตการบิน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยภาพจากคลิปดังกล่าวจะเห็นว่ามีชายคนหนึ่งถือขวานเหล็กพร้อมด้ามไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่และวิ่งอยู่ใกล้กับเครื่องบินที่จอดในหลุมจอดที่ 101 โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของการท่าพยามเข้าจับกุมตัว แต่ชายคนดังกล่าวใช้ขวานไล่ฟันและวิ่งหนีขึ้นบันได้ท่าเทียบเครื่องบินจุดที่สามารถเชื่อมต่ออาคารผู้โดยสารได้ จังหวะนั้นเจ้าหน้าที่การท่าจึงตัดสินใจเข้าชาร์จตัวเอาไว้ได้สำเร็จ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น โดยหลังเกิดเหตุพบว่าชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บจากบาดแผลถูกกระจกของทางเข้าอาคารผู้โดยสารแตกใส่และจากการต่อสู้กับทางเจ้าหน้าที่ ขณะที่มีรายงานมีเจ้าหน้าที่บางนายได้รับบาดเจ็บถลอกตามร่างกายด้วยเช่นกัน หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวชายคนดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือ นายวัชระ คำบุตร อายุ 34 ปี ต.เอราวัณ อ.เอราวัณ จ.เลย พร้อมกับยึดของกลางเป็นปืนปลอมสั้น 1กระบอก ขวานด้ามเหล็กยาวกว่า 50 เซนติเมตร กรรไกรปลายแหลมด้ามพาสติก 1 อัน ยาบ้าสีส้ม 1 เม็ดบรรจุในกล่องพาสติกทองรูปพรรณ โดยในเบื้องต้นชายคนดังกล่าวยังอยู่ในอาการเมาเสาเสพติดและยังไม่สามารถเอาตัวมาสอบปากคำได้ จึงต้องนำตัวเข้าห้องขังเพื่อสงบสติอารมณ์ ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ


*****นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 11.50 น. ได้เกิดเหตุมีบุคคลภายนอกขับขี่รถจักรยานยนต์ พกอาวุธ ฝ่าฝืนมาตรการรักษาความปลอดภัยบุกรุกเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามภายในเขตการบิน โดยเมื่อได้รับแจ้งเหตุ ศูนย์รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตลอดเหตุการณ์พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขับรถยนต์สายตรวจเข้าตามสกัดจับผู้บุกรุก แต่เนื่องจากผู้บุกรุกมีอาวุธทางเจ้าหน้าที่จึงต้องใช้กำลังในการควบคุม โดยสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในเวลา 12.03 น. และนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ก่อนที่ผู้บุกรุกจะพยายามหนีเข้าไปในสะพานเทียบอากาศยาน ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุเป็นชายไทย อายุ 34 ปี ขณะจับกุมบุคคลดังกล่าวยังมีอาการมึนเมาจากการเสพยาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืนสั้น และของมีคม(ขวานเหล็ก,กรรไกร) พร้อมด้วยยาบ้า 1 เม็ด


*****นายกิตติพงศ์กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ส่งผลต่อการให้บริการผู้โดยสารและเที่ยวบิน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทสภ. ได้ปฏิบัติหน้าที่เข้าระงับเหตุได้อย่างทันท่วงทีและเป็นไปตามขั้นตอน ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธจึงทำให้ ผู้ก่อเหตุและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และได้รับการรักษาพยาบาลเบื้องต้น ขณะที่ผู้ก่อเหตุได้ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุนอกจากจะถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกเข้าไปในเขตพื้นที่หวงห้ามภายในท่าอากาศยานแล้ว จะต้องถูกดำเนินคดีจากข้อหากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 ตามมาตรา 19 ด้วยข้อหาใช้อาวุธหรือวัสดุอื่นใดกระทำการอันอาจเป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของท่าอากาศยานบุกรุก ซึ่งมีระวางโทษหนักอาจถึงประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หกแสนบาทถึงแปดแสนบาท นอกจากนี้ยังมีความผิดในการทำลายทรัพย์สินของท่าอากาศยานจนได้รับความเสียหาย รวมทั้งมีความผิดเนื่องจากเสพและมียาเสพติดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายอีกด้วย ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ส่งผลให้มีทรัพย์สินส่วนหนึ่งของ ทสภ. ได้รับความเสียหายโดยตรวจพบประตูกระจกตรงช่องทางเข้าอาคารเทียบเครื่องบิน แตกเสียหายจำนวน 2 บาน เนื่องจากผู้บุกรุกได้ใช้อาวุธทุบประตูกระจกเพื่อพยายามหลบหนีเข้าไปในอาคารแต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสกัดจับได้เสียก่อน โดย ทสภ.ปฏิบัติตามขั้นตอนด้านการรักษาความปลอดภัยโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และ ผู้โดยสารเป็นสำคัญ


*****ด้าน พ.ต.อ. จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระบุว่า โดยในวันนี้เจ้าตัวเริ่มมีสติกลับมามากแล้วจนสามารถเล่าเหตุการณ์และจำเห็นการณ์ที่เกิดขึ้นได้จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่าลงมือทำไปจริง เพราะว่าก่อนหน้านี้ช่วงกลางคืนตนเองไปซื้อยาบ้ามาสิบเม็ดและเสพติดต่อกันไปถึงแปดเม็ดจนกระทั่งเลิกงานกลับถึงห้องพอนอนก็ได้ยินเสียงมีคนบอกให้ไปปล้นเครื่องบินจึงเอาปืนปลอมที่สั่งซื้อในลาซาด้าพกติดตัวออกมาส่วนขวานเหน็บติดรถไว้อยู่แล้ว จากนั้นก็ขี่ออกมาที่สนามบินตั้งใจขึ้นไปที่อาคารผู้โดยสารแต่ขับหลงไปทางดังกล่าว ตอนนั้นในหูได้ยินแต่เสียงคนบอกให้ไปอย่างเดียว


*****หลังการสอบสวน พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มามาตรา 19 ผู้ใดใช้อาวุธหรือวัสดุอื่นใดกระทําการ อย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ถ้าการกระทํานั้น เป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของท่าอากาศยาน ผู้กระทําต้องระวางโทษประหารชีวิต จําคุกตลอดชีวิต หรือจําคุกตั้งแต่ 15-20 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000-800,000 บาท พกพาอาวุธ(ขวาน)ไปในทาง เมือง ชุมชน และพื้นที่ห้วงห้ามเจตการบิน โดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ผู้อื่นเกิดความตกใจกลัว ขับขี่ยานพาหนะขณะเสพสารเสพติดในร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงาน มียาเสพติด(ยาบ้า)ไว้ในความครอบครอง โดยผิดกฎหมาย
**********************************
วิวรรธน์ ยั่งยืนเตชานนท์ สมุทรปราการ 0916986925