นครปฐม เปิดโรงพยาบาลสนามบุษราคัม แห่งที่2ในพื้นที่รพ.สามพราน

นครปฐม  เปิดโรงพยาบาลสนามบุษราคัม แห่งที่2ในพื้นที่รพ.สามพราน

วันที่ 25สิงหาคม2564 ที่โรงพยาบาลสนามบุษราคัมแห่งที่2 ในพื้นที่ลานจอดรถโรงพยาบาลสามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม

พระเทพศาสนาภิบาล  เจ้าคณะภาค14 เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อ.สามพราน จ.นครปฐม เป็นองค์ประธานเปิดโรงพยาบาลสนามบุษราคัมแห่งที่2 พร้อมด้วย พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม และนายเผดิชัย สะสมทรัพย์ สส.จังหวัดนครปฐม  นายบุญเชิด  กิตติธรางกูร  ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม  นายพัฒนพงษ์ สร้อยอินทรากุล นายอำเภอสามพราน นายแพทย์ ทินกร  ชื่นชม รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน  นายประมวล  โฆษิตชัยมงคล สาธารณสุขอำเภอสามพราน นายวุฒิชัย  วังพรม รองนายกเทศมนตรีเมืองไร่ขิง  คณะผู้บริหารและแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลสามพราน ร่วมพิธี

 

ซึ่งจากดำริของพระเทพศาสนาภิบาล  เจ้าคณะภาค14 เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ที่ได้เห็นผู้ป่วยโควิดต้องนอนรอเตียงเพื่อขึ้นรักษาตัวในโรงพยาบาล และการส่งต่อรักษาในรพ.อื่นๆ จึงได้สั่งการให้นำเต้นซ์ขนาดใหญ่ พร้อมประสานคณะศิษย์ นายจำรัส ตั้งตระกูลธรรม นายกเทศมนตรีเมืองไร่ขิง มอบเตียงเหล็กสนามพร้อมหมอนและที่นอน จำนวน50เตียง นำตั้งในเต้นซ์โรงพยาบาลสนามบุษราคัม แห่งที่1 ในการรับรักษาผู้ป่วยที่เป็นสีส้ม และผู้ป่วยสีแดงเข้ารักษา ไปแล้ว เมื่อวันที่28กรกฎาคม 2564 แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อยอดผู้ป่วยที่มีเพิ่มขึ้น  พระเทพศาสนาภิบาล  เจ้าคณะภาค14 เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ได้สั่งการให้มีการตั้งเต้นซ์เปิดโรงพยาบาลสนามบุษราคัม แห่งที่2 ขึ้นอีกจำนวน50เตียง เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ป่วยจากการติดเชื้อไวรัส โควิด-19

สำหรับโรงพยาบาลสนามบุษราคัม แห่งที่2 นี้ได้มีการปรับข้อบกพร่องจากโรงโรงพยาบาลสนามบุษราคัม แห่งที่1 มาใช้ ด้วยการเดินท่อออกวิเจนเหลว ไปยังเตียงผู้ป่วยทั้ง50เตียง ทำให้สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีภาวะขาดออกซิเจนได้อย่างรวดเร็ว ลดการใช้เครื่องผลิตออกซิเจนที่กำลังขาดแคลน ลดการทำงานของบุคลากรที่จะต้องสวนชุด PPEเข้าไปดูแลผู้ป่วย รวมทั้งการใช้ระบบคิวอาร์โค๊ต สแกนไลน์เพื่อผู้ป่วยและแพทย์ พยาบาลได้สื่อสารสอบถามอาการผ่านแอฟพิเคชั่น ที่จะม่เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาลคอยดูแล ทั้งการตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจดูคนไข้หากเกิดวิกฤติ จะสามารถช่วยเหลือได้ทันที

ทางด้าน พระเทพศาสนาภิบาล  เจ้าคณะภาค14 เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ได้กล่าวว่า วัดไร่ขิงเป็นหลัก และมี ผู้ใหญ่เช่น ท่านสส.ผเดิมชัย  เทศบาลเมืองไร่ขิง มาเป็นผู้อุปถัมภ์สิ่งที่เห็นก็คิดว่ายังไม่พอ ถ้ามันไม่หายก็คงต้องต่อเพิ่มไปอีกเต็นท์แต่ฟังข่าวของรัฐบาลก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย  ที่เป็นห่วงก็คือท่านหมอทินกร  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน  รองพัชรีและแพทย์พยาบาล เพราะว่าหนักมาก  ไปไหนไม่ได้ก็ต้องสู้กันเพราะฉะนั้นเขาจะฉีดวัคซีนเข็มที่3 เข็มที่4ก็ให้ฉีดไปเลย พวกนี้เขาหนักนะ เพราะแพทย์พยาบาลติดโควิดก็รู้สึกเป็นห่วง เป็นความรู้สึกของคณะสงฆ์ โดยภาพรวมก็อยากจะช่วยไม่อยากเห็นเลยทีละ2ศพ3ศพตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอวัดไร่ขิงเผาศพทุกวัน  โดยเฉพาะผู้สูงอายุต้องระวังโรคแทรกซ้อน   โดยภาพรวมหมอก็ทำดีที่สุดแล้ว

ต้องขอขอบคุณ หลวงพี่น้ำฝน พระครูปลัดสิทธิวัฒน์  องค์นี้หนักกว่าเราเตาระเบิดแล้วเผาทุกวันและเผาเอง ให้สัปเหร่อเผาบ้าง หาพระแบบนี้ยากก็ทำงานด้วยกัน ก็ขอบคุณที่มาให้กำลังใจมาร่วมพิธีเปิดโรงพยาบาลสนามบุษราคัมแห่งที่2  ขอให้ญาติโยมทุกท่านปลอดภัย หลายโรคมีโชคมีลาภมีทรัพย์ มีสินอยู่เย็นเป็นสุข  ขอให้หายทุกคนทุกท่านเทอญ

ในการนี้เจ้าคณะภาค14ได้มอบเจลล้างมือและยาสมุนไพรให้กับโรงพยาบาลสามพราน  เพื่อนำไปรักษาผู้ป่วย  และรับมอบชุดPPE จากนายเผดิมชัย  สะสมทรัพย์ สส.จังหวัดนครปฐม  เพื่อส่งต่อให้แพทย์ พยาบาล

ทางนายแพทย์ทินกร ชื่นชม รองนายแพทย์สาธารณสุข  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน ได้กล่าวว่าเต็นท์2เต็นท์นี้เป็นโรงพยาบาลสนามบุษราคัม(วัดไร่ขิง) ซึ่งองค์ประกอบเป็นอาคารที่เป็นเต็นท์สองหลังจุผู้ป่วยได้หลังละ 50 และ 51 คนรวมแล้วสองเต็นท์ 101 คนและมีสถานปฏิบัติการห้องควบคุมหรือเนิทสเตชั่น 1แห่ง  มีห้องน้ำอยู่2แห่ง  ซึ่ง ทั้งหมดนี้รวมทั้งโครงสร้างของอาคารเต็นท์ระบบแสงสว่างอุปกรณ์เครื่องนอนระบบระบายอากาศทั้งหลายได้รับการบริจาคทั้งหมด  แม้แต่เสื่อน้ำมันและพื้นทั้งหมดส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ก็ได้รับบริจาคเหมือนกัน  ได้แก่ระบบการส่งออกซิเจนเหลวทางท่อ ระบบเครื่องผลิตออกซิเจน ระบบเครื่องช่วยหายใจหรือแม้แต่ตัวน้ำดื่มและอุปกรณ์สาธารณูปโภค  อาหาร  เสื้อผ้าผู้ป่วยเหล่านี้ได้รับบริจาคจากผู้มีอุปการะคุณทั้งหลาย  รวมทั้งตัวห้องน้ำทั้งหมดทั้งมวลที่ทำให้พวกเรามีกำลังใจในการทำงานก็คือการมีส่วนร่วมในการฝ่าวิกฤต โควิด-19

เราใช้การมีส่วนร่วมในการเคลื่อนที่เร็วการเข้าหาประชาชนอย่างรวดเร็วในระบบต่างๆต้องทำงานแบบสอดคล้องกันตั้งแต่ค้นหา  ให้ภูมิคุ้มกันโรค  รักษาคนไข้และฟื้นฟูสภาพคนไข้  ใช้4ยุทธศาสตร์นี้ในการลงไปกำกับ เช่น การค้นหาเราก็จะมีการเข้าไปตรวจเชิงรุก  การให้ภูมิคุ้มกันโรคก็คือการลงไปฉีดวัคซีน  โดยมีอาคาร 84พรรษาเป็นเซ็นเตอร์หลักและมีการเคลื่อนที่เข้าไปฉีดในโรงงานอุตสาหกรรมในสถานประกอบการหรือในบ้านพักผู้สูงอายุและเราก็ได้ร่วมมือกับทางผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่าตำบลใดที่มีผู้ประสงค์จะฉีดวัคซีนให้นัดเวลาถ้าโรงพยาบาลก็จะลงไปฉีดให้  ในส่วนภาคการรักษาเมื่อมีการเข้าระบบศูนย์พักคอยหรือโรงพยาบาลสนาม  เราก็จะมีเข้าไปแจกอุปกรณ์ทางการแพทย์ คือ เครื่องวัดอุณหภูมิเครื่องวัดออกซิเจน มีการส่งยาทั้งฟาวิพิราเวียและฟ้าทลายโจร ลงไปยังผู้ป่วยโดยการร่วมมือของตั้งแต่อสม.พี่น้อง รพ.สต.และก็ท้องถิ่นในการเข้าไปเยี่ยม ดูแล   และเรามีระบบการเอ็กซเรย์ปอด เป็นเอกซเรย์เคลื่อนที่เราก็จะนัดมาเอกซเรย์กันสัปดาห์ละอย่างน้อย3ครั้งในผู้ป่วย1คนจะต้องได้รับเอกซเรย์1ครั้งถ้าทุกอย่างปกติอันนี้คือมาตรการของเรา

คือตอนนี้เรากำลังดูเคิฟของการระบาดของโรค เราเข้าใจว่ามันขึ้นมาจนถึงจุดสูงสุดของเคิฟและมีการชะลอตัวอันนี้คือสัญญาณที่ดี  ถ้าการป้องกันโรค ก็คือวัคซีนให้เต็มที่และมาตรการมีระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ใช้อย่างเข้มข้นเราก็มีความหวังว่าเมื่อปลายเดือนนี้ไปก็อาจจะมีข่าวดีเรื่องการชะลอตัวของการเกิดผู้ป่วยรายใหม่และการลดลงของผู้ป่วยหนัก แล้วก็ยังดำเนินการสู้กับโลกนี้ต่อไป ถามว่าเราต้องอยู่กับมันไหมเราต้องอยู่กับมันโควิด-19  แต่อยู่แบบเราควบคุมโควิดได้  และหากถามว่างานหนักไหมงานหนัก แต่ว่าถ้าประชาชนเข้าใจเรากำลังใจก็จะมาหาเรา ขอความเข้าใจว่าการทำงานสู้กับวิกฤติครั้งนี้มันต้องมีช่องโหว่หรือต้องมีผิดพลาด  ถ้าเราให้กำลังใจกันก็จะเข้าใจซึ่งกันและกัน ความหนักหน่วงตรงนี้ก็จะแปรกลับมาเป็นกำลังใจให้พวกเราในการทำงานต่อไป